ขอเชิญท่านสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ณ ประเทศ ภูฏานดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า
จากตำนานในอดีตสู่เรื่องราวปัจจุบัน ดินแดนแห่งขุนเขาอันลึกลับแห่งน
ี้เป็นที่สนใจของเหล่าผู้คนที่อยากค้นหาเสน่ห์แห่งความงดงามของธรรมชาต
ิและความสงบสุขที่มิสามารถเปรียบเทียบกับที่อื่นใดในโลก กลิ่นอายของวัฒนธรรม
และประเพณีที่สืบทอดกันมาจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งยังคงมีให้เห็นเป็นรูปธรรม
ศิลปะและสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ และรูปแบบเฉพาะตัว มีปรากฏอยู่ให้เห็นทั่วทุกหนทุกแห่ง
รอยยิ้มแห่งความเป็นมิตรที่จริงใจและซื่อบริสุทธิ์ของผู้คนที่สามารถพบได้ทั่วไป..
และนี่เองที่ทำให้ภูฏาน แตกต่างจากทุกๆ ที่ในโลกใบนี้
จะเดินทางกี่คนก็ไปได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 2 ท่านขึ้นไป
ทัวร์ภูฏานที่กำหนดวันที่เดินทางอื่นๆ
พิมพ์รายการทัวร์ภูฏานนี้
ทัวร์ภูฏาน 5 วัน 4 คืน
วันเดินทาง / ออกเดินทางตั้งแต่ 01 ธันวาคม 2555 – 28 กุมภาพันธ์ 2556
|
วันแรก / กรุงเทพฯ – พาโร – คิชู ลาคัง – วัดทักซัง – ดรุกยาล ซอง – พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพาโร – พาโรซอง – ทิมพู |
|
12.00 |
พร้อมกัน ณ สนามบินสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก |
|
ประตูที่ 10 เคาร์เตอร์ W สายการบินแห่งชาติภูฏาน ดรุกแอร์ (Druk Air) |
|
สายการบินเดียวที่สามารถนำท่านเดินทางสู่ภูฏาน |
13.00 |
เหินฟ้าสู่ประเทศภูฏาน โดยสายการบินดรุกแอร์ เที่ยวบินที่ KB 129 (13.00-15.00) บินตรงสู่ประเทศภูฐาน |
15.00 |
เดินทางถึงสนามบินพาโร เมืองพาโร |
|
เดินทางถึงสนามบินพาโร เมืองพาโร ที่ระดับความสูง 2,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล |
|
ท่านสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาเอเวอร์เรสท์ เทือกเขาคันเชงจุงก้า |
|
ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และสามารถมองเห็นเทือกเขาน้อยใหญ่แห่งหิมาลัย |
|
เช่นยอดเขามาคะลู ยอดเขาชมอนฮาริ ยอดเขาจีชูเดรก ยอดเขาซริมกาน และได้สูดอากาศบริสุทธ์ |
|
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว |
|
จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (National Museum of Bhutan) |
|
ซึ่งในอดีตเคยเป็นหอสังเกตการณ์ หรือ ตาซอง (Ta Dzong) ให้แก่พาโร ริงปุง ซอง |
|
แต่ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1968 มีทั้งหมด 6 ชั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวมรวมภาพพระบฏ |
|
อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอย สัตว์ป่าแถบเทือกเขาหิมาลัย |
|
ตลอดจนดวงตราไปรษณีย์ที่สวยงามมากมายหลายรูปแบบ แต่เนื่องจากตัวอาคารได้ถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ |
|
ทำให้ตัวอาคารเกิดความเสียหายอย่างมาก และอาจเป็นอันตรายต่อการเข้าชมภายในตัวอาคาร |
|
นักท่องเที่ยวจึงสามารถชมได้จากด้านนอกอาคารเท่านั้น |
|
จากนั้นนำท่านสู่ พาโรซอง(Paro Rinpong Dzong) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1645ในรัชสมัยของ Shabdrung Ngwang Namgyel |
|
ผู้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่รวมประเทศภูฏานเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียวในช่วง คริสตศตวรรต 17 |
|
ถูกสร้างบนพื้นที่ ที่เด่นตระหง่านอยู่ในหุบเขาพาโร ทางเข้าตัวซองจะมีสะพานไม้ที่สวยงามพาดผ่านแม่น้ำ |
|
เพื่อเข้าสู่ตัวซอง ปัจจุบันพาโรซองเป็นทั้งสถานที่สำหรับส่วนบริหารเมืองพาโร |
|
และส่วนที่เป็นวัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ประมาณ 200 รูป |
|
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทิมพู ราชธานีแห่งภูฏานโดยทางรถยนต์ ระยะทาง 68 กิโลเมตร |
|
ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง ระหว่างทางท่านสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของภูฏาน |
|
และท่านจะตื่นตาตื่นใจสถาปัตย กรรมที่มีรูปแบบและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภูฏาน |
|
ที่ท่านจำได้พบเห็นตลอดสองข้างทางจนกระทั่งมองเห็นภาพบ้านเรือนแบบภูฏานซึ่งคับคั่งกว่าที่ใด |
|
โดยสร้างลดหลั่นตามเชิงเขาซึ่งมีพื้นที่ราบเล็กๆ โอบล้อมด้วยขุนเขา มีแม่น้ำทิมพูไหลพาดผ่าน |
|
ทิมพูนับว่าเป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดของเอเชีย ถึงตัวเมืองทิมพู นำท่านชมเมืองทิมพูซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่ไม่ใช้ไฟจราจร |
|
ท่านจะรู้สึกได้ถึงการผสมผสานอย่างลงตัวของประเพณีดั้งเดิม และความทันสมัย |
|
โดยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือ สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมการแต่งกาย ตลอดจนมิตรไมตรีจิตของผู้คน |
|
โดยชาวภูฏานส่วนใหญ่จะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ผู้ชายจะแต่งชุดที่เรียกว่า โก (Kho) |
|
ส่วนผู้หญิงจะแต่งชุดที่เรียกว่า กีร่า (Kira) ท่านสามารถจับจ่ายซื้อของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ |
|
เช่น ผ้าทอภูฏาน เครื่องประดับเงิน ไม้แกะสลัก ภาพพระบฏ (Thangka) น้ำผึ้ง และหนังสือได้ที่นี่ |
|
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก |
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น |
|
และกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม |
|
|
|
วันที่สอง / ทิมพู – เลือกซื้อของตลาดสุดสัปดาห์ -มหาสถูปพระบรมอัฐิ-สอนงานศิลปะ - วัดชันกังคา -ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน- วัดแม่ชี ซิลูคา - โรงเรียนสอนงานศิลปะ –ทาชิโช ซอง |
|
07.00 |
จากนั้นรับประทานอาหารที่โรงแรม |
08.00 |
จากนั้นนำท่าน เดินเล่นใน ตลาดสุดสัปดาห์ (Weekend market) |
|
ซึ่งจำหน่ายผลผลิตทาง การเกษตร และของที่ระลึก |
|
จากนั้นชม มหาสถูปประดิษฐ์ฐานพระบรมอัฐ ิ( Memorial Chorten) จิกมี ดอร์จี วังชุก |
|
ซึ่งเป็นพระชนกของกษัตริย์ (พระเจ้าจิกมี ซิงเย วังชุก) |
|
พระองค์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ที่ปกครองภูฏาน ในช่วงปี ค.ศ. 1952-1972 |
|
และทรงได้รับพระฉายาว่า “พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” (King of Merdernization) |
|
มีประสงค์จะสร้างเพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา แทนสัญลักษณ์ กาย วาจา และใจ ของพุทธศาสนา |
|
แต่ท่านได้เสียชีวิตลงเสียก่อน สมเด็จพระราชินีจึงได้ดำเนินการสร้างต่อจนแล้วเสร็จ |
|
จากนั้นนำชมวัดชันกังคา (Changangkha Temple) วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ซึ่งถูกสร้างในค.ศ. ที่ 14 หรือ กว่า 600 ปี |
|
ชม ซังเกกัง (Sangaygang) จุดชมวิวทิวทัศน์ ที่สวยงาม ของหุบเขา เมืองทิมพู เพื่อเก็บภาพประทับใจ |
|
และชมสถานอนุรักษ์สัตว์ประจำชาติของภูฏาน ที่เรียกว่าทาคิน (Takin) ซึ่งปัจจุบันหาดู ได้ยากมาก |
|
จากนั้นนำท่านชมที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน (Post Office) ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อดวงตรา ไปรษณียากร ที่งดงามของภูฏาน |
|
ที่ถูกจัดแสดงไว้ที่นี่ ภูฏานจัดเป็นประเทศ “เจ้าแห่งสแตมป์” แห่งหนึ่งของโลก |
|
สแตมป์ของภูฏานมีให้เลือกในหลายรูปแบบและราคา ทั้งรูปวิวทิว ทัศน์ธรรมชาติ |
|
รูปวัดและป้อมปราการที่เรียกว่า ซ็อง (Dzong) รูปสัตว์ รูปดอกไม้ต่างๆรวมทั้งยังมีสแตมป์ 3 มิติอีกด้วย |
12.00 |
รับประทานอาหารมื้อกลางวัน |
|
จากนั้นนำท่านชม วัดแม่ชี ซิลูคา (Zilukha Nunnary) |
|
ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวในทิมพูที่มีแม่ชีจำวัดและศึกษาเล่าเรียนอยู่ |
|
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม หอสมุดแห่งชาติ (The National Library) |
|
ชมโรงเรียนสอนงานศิลปะ (The School of Arts and Crafts or the Painting School) |
|
เป็นสถาบันที่สอนงานศิลปะและงานช่างของภูฏาน 13 แขนง โดยใช้หลักสูตร 6 ปี |
|
ซึ่งท่านจะเห็นเด็กนักเรียนกำลังประดิษฐ์ งานศิลปะแขนงต่างๆ เช่น การแกะสลักไม้ การปั้นพระพุทธรูปปูนปั้น และการวาดภาพ |
|
พระบฏ หรือภาพทังก้า (Tanka) จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์พื้นบ้าน(The Folk Heritage Museum) |
|
นำท่านชม ทาชิโชซอง (Tashicho Dzong) ซึงเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองหลวงทิมพู |
|
ซองแห่งนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากและใหญ่โต ปัจจุบันถูกใช้แยกเป็นส่วนต่างๆ |
|
เช่น สถานที่ทำงานของกษัตริย์ สถานที่พักในฤดูร้อนของสมเด็จพระสังฆราช ตลอดจนสถานที่ทำการของรัฐบาล |
(หมายเหตุ : |
ก่อนอื่นคงต้องขอพูดถึงเรื่องของซอง (Dzong) เสียก่อน มาภูฏานสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นและได้ยินบ่อยๆ คือ ซอง |
|
เพราะ “ซอง” ไม่ใช่เป็นเพียงสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญกับด้านการบริหารการปกครองบ้านเมืองเท่านั้น |
|
หากแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนภูฏาน เนื่องจากเป็นที่ตั้งของวัดหลักประจำท้องถิ่นเขตนั้นๆ |
|
หากแปลความหมายของซอง ซึ่งเป็นภาษาซองคา |
|
ก็คือป้อมปราการ ที่ในอดีตใช้เป็นที่ใช้ป้องกันอริศัตรูที่มารุกรานผืนดินแห่งนี้นั่นเอง) |
|
จากนั้นนำท่านอิสระช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝาก |
เย็น |
พาท่านรับประทานอาหารเย็นและเข้าที่พักพักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก |
|
|
|
|
วันที่สาม / ทิมพู – โดชูลา – ปูนาคา - พาโร |
|
07.00 |
ทานอาหารเช้า ที่โรงแรม |
|
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปูนาคา(Punakha) ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร |
|
(ต่ำกว่าทิมพูราว 1,000 เมตร) จึงมีสภาพอากาศอบอุ่นกว่าทิมพู |
|
กษัตริย์ภูฏานและสมเด็จพระสังฆราชจะทรงสเด็จแปรพระราชฐานในฤดูหนาว(ช่วงเดือนพ.ย.- เม.ย.) |
|
ปูนาคาจึงเป็น“เมืองหลวงฤดูหนาว”(Winter Capital) ในขณะที่ทิมพูเป็น“ เมืองหลวงฤดูร้อน ” |
|
และยังเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ ระยะทาง 80 กิโลเมตรใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมงครึ่ง |
|
ระหว่างทางจะข้ามช่องเขา “ โด ชูลา ” ( Dochula Pass ) หรือช่องเขาศิลาที่มีระดับความสูง 3,150 เมตร |
|
เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นช่องเขาที่สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้ในระยะใกล้ |
|
บางวันก็จะเห็นทะเลหมอกปกคลุมอยู่ทั่วไป รวมถึงกังก้า พุนซุม (Gangkhar Phuensum) ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก |
|
ยังไม่มีผู้ใดสามารถปีนขึ้นไปได้) ซึ่งสูงถึง 7,500 เมตร ซึ่งมีสถูป “ดรุค วังเกล” ( Druk Wangle Chorten ) |
|
หรือสถูปแห่งความเป็นสิริมงคลและสันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์ |
|
ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อถวายพระโพธิสัตว์ของชาววัชรยาน 108 องค์ โดยสมเด็จพระราชินี อะชิ ดอร์จิ วังโม เดินทางถึง เมืองปูนาคา |
|
อดีตราชธานีของภูฏานมากว่า 300 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1639-1955 ถูกสร้างและปกครองโดยพระลามะผู้ใหญ่ |
|
ซึ่งลี้ภัยมาจากทิเบต นามชับดรุง งาวังนัมเกล (Shabdrung Ngawang Namgyal) |
|
ผู้มีบทบาทในการรวบรวมแคว้นต่างๆ เข้าเป็นอาณาจักร “ภูฏาน” เพียงหนึ่งเดียว |
|
จากนั้นนำท่านชม ปูนาคาซอง (Punakha Dzong) ซึ่งมีขนาดพื้นที่ยาว 180 เมตร กว้าง 72 เมตร |
|
มีหอกลางหลังคายอดโดมทองสูงถึง 6 ชั้น ภายในซองแบ่งเป็นส่วนที่ทำการปกครองเขตและส่วนของศาสนา |
|
และเป็นที่ประทับของพระสังฆราชในฤดูหนาวเพราะที่นี่มีอากาศอบอุ่นกว่าในช่วงฤดูหนาว |
|
ด้านหน้าของปูนาคาซองจะเป็นจุดที่แม่น้ำโพ (Po Chu) และแม่น้ำโม (Mo Chu) |
|
ซึ่งหมายถึงแม่น้ำพ่อและแม่น้ำแม่ไหลมาบรรจบกันพอดี ี |
|
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองวังดี โปดรัง (Wangdi Phodrang |
|
)เป็นเมืองในอดีตที่สำคัญของประวัติศาสตร์ภูฏาน |
|
ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองปูนาคาประมาณ 13 กิโลเมตร เมืองที่มีกระแสลมแรงตลอดทั้งปี |
เที่ยง |
รับประทานอาหารมื้อกลางวัน |
|
นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาโร เมื่อเดินทางถึงเมืองพาโร นำท่านเข้าสู่ที่พัก |
ค่ำ |
รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัยที่โรงแรม |
|
|
|
วันที่สี่ / เมืองพาโร – คิชู ลาคัง – วัดทักซัง – ดรุกเยล ซอง |
|
07.00 |
ทานอาหารเช้า ที่โรงแรม |
|
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านซัทซัม เพื่อขี่ม้า ขึ้นเขาทักซัง |
|
ณ ที่นี้เป็นที่ตั้งของ วัดทักซัง (Taktsang Monastery) |
|
ชื่อทักซังนี้มีความหมายว่าที่อยู่ของเสือ (Tiger’s Nest) ซึ่งตั้งตามตำนานความเชื่อเก่า |
|
วัดแห่งนี้จัดเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในราชอาณาจักรภูฏาน เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างในปี ค.ศ. 1692 |
|
เชื่อกันว่าพระคุรุปัทมาสัมภวะซึ่งเป็น องค์ปฐมาจารย์ผู้นำศาสนาพุทธลัทธิตันตระ |
|
ไปเผยแพร่ในทิเบตและราชอาณาจักรแห่งนี้ ประทับบนหลังเสือ |
|
แล้วเหาะขึ้นมาวิปัสสนากรรมฐานในถ้ำแห่งนี้เป็นเวลา 3 เดือน |
|
โดยชาวภูฏาน ทุกคนมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะได้ขึ้นมาแสวงบุญที่ทักซังสักครั้งหนึ่งในชีวิต |
|
ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตรชายเขตเมืองพาโร |
|
(การเดินทางขึ้นไปยังวัดทักซัง รถบัสจะนำคณะมีที่จุดขึ้นม้าที่หมู่บ้านซัทซัม |
|
โดยจะมีคนเลี้ยงม้าคอยดูแล ตลอดการเดินม้า ท่านจะเพลิดเพลินกลับธรรมชาติ ตลอดการเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง |
|
ที่จะเดินทางถึง Car เพื่อพักผ่อนชมวิวของวัดทักซังพร้อมรับประทาน ชา/กาแฟ และอาหารว่าง |
|
หากท่านใดประสงค์จะไปถึงตัววัดทักซังจะต้องขี่ม้าไปอีกหนึ่งชั่วโมง และเดินโดยทางเท้าอีก 400 เมตร |
|
เพื่อลงบันไดประมาณ 250 ขั้น และเดินขึ้นบันได อีก 100 ขั้น จึงจะถึงตัววัด |
|
เมื่อท่านได้ถ่ายรูป หรือประสงค์จะสวดมนต์หรือนั่งสมาชิกจนได้เวลาพอสมควร |
|
จะนำท่านเดินทางโดยทางเท้ากลับลงมาตลอดเส้นทางจนถึงที่พักรถ) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
จากนั้นนำชม “ดรุกยาล ซอง” (Drugyel Dzong) ป้อมโบราณเก่าแก่อยู่บนยอดเขาสร้างราว ค.ศ. 1649 |
|
ใช้เป็นป้อมหน้าด่านต่อสู้จากผู้รุกรานจากทิเบตโดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองพาโร |
|
ณ ที่แห่งนี้ท่านสามารถมองเห็นทิเบตและเทือกเขา จูโมลฮารี หรือ “เทือกเขาแห่งพระเจ้า” |
|
ที่มีความสูงถึง 7,315 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นจุดชมวิวของยอดเขา “จูโมลฮารี” (Jomolhari) |
|
นำท่านเดินทางสู่ คิชู ลาคัง(Kyichu LhakhangTemple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูฏาน |
|
ตามประวัติว่า สร้างตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือราว 1,300 ปี มาแล้ว |
|
ตั้งแต่สมัยที่ภูฎานยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทิเบต โดย กษัตริย์ซองเซน กัมโป |
|
ซึ่งชาวทิเบต ยกย่องว่าเป็นผู้อัญเชิญศาสนาพุทธสายวัชรยานตันตระมาประดิษฐาน ในทิเบต |
|
โปรดให้สร้างวัด 108 แห่ง เพื่อตอกอวัยวะ 108 จุดของยักษ์ตนหนึ่งซึ่งนอนแผ่ทับเทือกเขาหิมาลัยไว้ |
|
หมายจะไม่ให้สัจธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้าเผยแผ่ไปถึงโดยที่จุดที่สร้างวัดคิชู ที่เมืองพาโรเป็นเท้าซ้ายของยักษ์ |
|
(อีกวัดหนึ่งในภูฏาน อยู่ที่เมืองบุมทัง สร้างตรงเข่า ซ้ายของยักษ์) จากนั้นนำท่านชมวิหารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยซองเซน กัมปุ |
|
ซึ่งปูพื้นด้วย ไม้แผ่นใหญ่ตรงบริเวณเบื้อง หน้าพระปฏิมประธานมีรอยบุ๋มลึก |
|
เนื่องจากมีผู้แสวง บุญมายืน และก้มลงกราบ พระแบบ “อัษฎางคประดิษฐ์” |
|
(ร่างกายแตะพื้น 8 จุด) ซ้ำ ๆ กันเป็นเวลานานนับพันปี |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมการแสดงนาฎศิลป์ของชาวภูฐาน |
|
(ทั้งนี้จำนวนผู้เดินทางต้องไม่ต่ำกว่า 15 ท่าน |
|
ทางบริษัทฯ จึงจะสามารถจัดการแสดงให้ได้ |
|
และทางบริษัทฯจะจัดชุด Kho และ Kera ให้ท่านได้ใส่เพื่อเข้ากับบรรยากาศ) |
|
|
|
วันที่ห้า / พาโร – กรุงเทพฯ |
|
07.00 |
ทานอาหารเช้า ที่โรงแรม |
08.00 |
เช็คเอ้าท์ แล้วเดินทางจากโรงแรม สู่สนามบินพาโร |
11.30 |
เครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินพาโรกลับสู่ประเทศไทย |
|
โดยสายการบินดรุกแอร์ เที่ยวบินที่ KB130 |
16.30 |
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ และความทรงจำที่ดี |
|
|
จบ รายการทัวร์
ทัวร์ภูฏานที่กำหนดวันที่เดินทางอื่นๆ
พิมพ์รายการทัวร์ภูฏานนี้
อัตราดังกล่าวรวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-พาโร-กรุงเทพ ชั้นประหยัด โดยสายการบิน ดรุกแอร์
- ค่าภาษีสนามบินขาออกสนามบิน กรุงเทพฯ และ พาโร
- ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน โดยใช้โรงแรมที่ผ่านการรับรองจากรัฐบาลภูฏาน (Standard Room)
- ค่าอาหารทุกมื้อตามที่กำหนดในโปรแกรม
- ค่ายานพาหนะในการนำเที่ยว และค่าเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม
- ค่าวีซ่าเพื่อขอเข้าประเทศภูฏาน
- ค่า Development Fee ที่ทางรัฐบาลภูฏาน เรียกเก็บจากนักท่องเที่ยว
- ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น (พูดภาษาอังกฤษ) คอยอำนวยความสะดวกตลอดโปรแกรม
- ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง วงเงิน 1 ล้านบาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
อัตราดังกล่าวไม่รวม
- ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 20 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน
- ค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง หรือค่าแจ้งเข้าออก กรณีคนต่างด้าว
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เครื่องดื่มและอาหารนอกรายการ,ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์ฯลฯ
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ
- ค่าภาษีบริการ 3% และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
การชำระเงินและการยกเลิกการเดินทาง
- ทางบริษัทฯจะขอเก็บค่ามัดจำเป็นจำนวน 25,000.- บาท ต่อผู้โดยสารหนึ่งท่านสำหรับการจองทัวร์
ส่วนที่เหลือจะขอเก็บทั้งหมดก่อนการเดินทางอย่างน้อย 15 วัน
มิฉะนั้น ทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่ามัดจำทั้งหมด
- หากมีการยกเลิกจะต้องแจ้งทางบริษัทฯ ก่อนเดินทางอย่างน้อย 21 วันทำงาน
- สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางไทย และทางบริษัทฯ เป็นผู้ยื่นวีซ่าให้ เมื่อผลวีซ่า ผ่านแล้ว
มีการยกเลิกการเดินทาง บริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่ามัดจำทั้งหมด
- หากผู้โดยสารท่านใด ยื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติ
ผู้โดยสารต้องชำระค่ามัดจำที่ 10,000.- บาท และค่าวีซ่าตามที่สถานทูตเรียกเก็บ
เอกสารที่ใช้ในการทำวีซ่า
- SCAN หน้าหนังสือเดินทางตัวจริง(JPEG) ที่ใช้เดินทาง และจะต้องมีอายุใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป (นำไปยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ภูฏาน)
หมายเหตุ
- รายการอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบินโรงแรมที่พักในต่างประเทศ
เหตุการณ์ทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ฯลฯ บริษัทฯ จะคำนึงถึงความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทาง เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย
หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย
หรือ ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว
ทางบริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมด หรือ บางส่วน
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่สถานทูตงดออกวีซ่า อันสืบเนื่องมาจากตัวผู้โดยสาร
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย
งดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
เงื่อนไขและความรับผิดชอบ
บริษัทเป็นเพียงตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบิน และ ตัวแทนการท่องเที่ยวในต่างประเทศ
ซึ่งไม่อาจรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆ ที่อยู่เหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัทฯ
อาทิ การนัดหยุดงาน การจลาจล เปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ ฯลฯ
หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงหรือทางอ้อม
เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้าหรือจากอุบัติเหตุต่างๆ ฯลฯ
และการตอบปฏิเสธการเข้าและออกเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าหรือออกเมือง
อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง หรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
พิเศษ จากเรา
- ราคาที่นำเสนอพิเศษสุดกว่าที่อื่น แต่มากด้วยคุณภาพกว่ามากมาย
- มีการชี้แนะสินค้าที่ควรซื้อให้ในราคาถูก ๆ ไม่มีจุดประสงค์ในการพาไปเชือดเหมือนทัวร์ทั่วไป
- เราแจกหมวก ให้คนละ 1 ใบ
- แจกกระเป๋าใส่ดินสอปากกาให้ 1 ใบ
- แจก ยาหม่องน้ำ ให้ 1 ขวด
- แจก พัดมือถือ คนละ 1 อัน 555
สนใจในการจอง
โอนเงินมัดจำ ในการจอง ทัวร์ คนละ 25,000 บาท
ชำระส่วนที่เหลือให้หมดก่อน 15 วัน ของวันเดินทาง
โอนมาที่ ธนาคารใด ธนาคารหนึ่ง ในนาม สมปอง เจนชัยจิตรวนิช
ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา สาขา สี่แยกวังหิน บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 2140013280
ธนาคาร กสิกรไทย สาขา รัชดา-ห้วยขวาง ในบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 089-1069251
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย เซ็นทรัลปิ่นเกล้า บัญชี ออมทรัพย์ เลขที่ 183-2 10718-9
ธนาคาร กรุงเทพ สาขาย่อย เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 095-0-20209-3
หลังการโอนเงิน
กรุณา ส่งหลักฐานต่างๆ ที่แจ้งไว้ด้านล่างนี้ มาที่............
- Fax 02-9481866, 02-9482065 รอสัญญาณ แฟกต์
- หรือ สแกนหลักฐาน ส่งมาที่ อีเมล์ jenchai624@hotmail.com
- สำเนาการโอนเงิน
- เบอร์โทรติดต่อกลับ ของ ผู้จอง และเพื่อนร่วมทาง
- กำหนดวันเดินทาง / ทริปที่ไป / วันเดินทาง
- หากไปต่างประเทศ ขอสำเนาพาสปอต
- สำเนาบัตรประชาชน กรณี ยังไม่มีพาสปอตในขณะนั้น ( ใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน )
สมปอง ทัวร์ /
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว เลขที่ 11 / 05588
Website : www.programtour.com
Email : jenchai624@hotmail.com
Chat : msn : jenchai624@hotmail.com
Chat : Skype : jenchai624
Office 1 : : ตลิ่งชัน 02-8867018-9
Office 2 : รามอินทรา : 02-9481866
Mobile : ไทย : 089-9246304, 087-5149753,
Mobile : เวียดนาม : 091-6003612
|