01.00 น. |
เดินทางถึงสนามบินอินทิราคานธี กรุงเดลลี |
|
หลังผ่านพิธีการตรวจเอกสารคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว |
|
นำท่านเข้าสู่พักที่โรงแรม PARK PLAZA / HARINAGAR หรือเทียบเท่า |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก |
|
นำเที่ยวชมกรุงเดลลี ท่านจะได้ชมบริเวณเมืองเดลลีเก่า (Old Delhi) และเดลลีใหม่ (New Delhi) |
|
เปรียบเทียบถึงศิลปะการก่อสร้างของเมืองเดลลีเก่า ซึ่งงดงามแบบแตกต่างไปจากเดลลีใหม่ |
|
ซึ่งรับวัฒนธรรมของพวกอังกฤษไว้มาก ผ่านชมย่านธุรกิจการค้า ย่านที่อยู่อาศัยของเศรษฐีอินเดียบนถนนสายสำคัญที่สุดของอินเดีย |
|
ตึกรัฐบาลอันยิ่งใหญ่ ที่ทำการของรัฐบาล จัมมามัสยิดที่ใหญ่โตเป็นอันดับที่ 3 ของโลก |
|
วัดฮินดูที่สวยงามที่สุด ชมประตูเมืองแห่งชัยชนะ (India Gate) อนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 1 |
|
ล้อมรอบด้วยพงป่าสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ Rashtrapati Bhavan ที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีอินเดีย |
|
จากนั้นนำชม กุตุปมินาร์ (Qutub Minar) หอคอยที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าปฤกวิราชเพื่อให้พระธิดาขึ้นไปดูแม่ยมุนาอันศักดิ์สิทธิ์ |
|
ชมมัสยิดที่สร้างด้วยหินสีแดงแกะสลักเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษาและคำสวดจากคัมภีร์โกหร่าน |
|
ผ่านชมจัมมามัสยิด สร้างขึ้นโดยกษัตริย์นักสร้างองค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล พระเจ้าชาร์จาฮาน เมื่อปี ค.ศ. 1650 |
|
ใช้เวลาสร้าง 6 ปี โดยใช้คนงาน 5,000 คน วัสดุใช้หินทรายสีแดง หินอ่อนสีขาวและสีแดง |
|
จุคนได้ 20,000 คน ขนาดใหญ่โตเป็นที่ 2 ของโลก และใหญ่ที่สุดในเอเชีย |
|
ผ่านชมป้อมแดง ป้อมปราการป้องกันข้าศึก ซึ่งสร้างโดยหินทรายสีแดง สร้างต่อเติมปี 1659 |
|
โดยมหาราชาชาร์ จาฮาน ใช้เวลาสร้าง 9 ปี เหตุที่มีดำริให้สร้างป้อมนี้ เพราะพระองค์จะย้ายราชธานีจากอัครามาที่เดลลี |
|
ยังไม่ทันย้ายก็ถูกจับขังโดยพระราชโอรสองค์ที่ 3 นามว่า พระราชโอรสออรังเซป |
|
ผ่านชมอนุสรณ์สถานท่านมหาตมะคานธี ที่ราชฆาต |
|
บุคคลผู้ซึ่งเปรียบเป็นบิดาแห่งประเทศอินเดีย ผู้นำการเรียกร้องเอกราชแบบอหิงสา |
|
ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 30 มกราคม 1948 รวมอายุได้ 78 ปี ผ่านชมวงแหวนสถานที่ราชการต่างๆ ทำเนียบรัฐบาล |
|
อักชารดาห์ม (Akshardham) หรือที่รู้จักกันในชื่อ เดลลีอักชารดาห์ม (Delhi Akshardham) |
|
หรือ สวามีนารายันอักชารดาห์ม (Swaminarayan Akshardham) ในภาษาไทยบ้างก็เรียกว่า อักษราธรรม |
|
ได้ชื่อว่าเป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก รับรองโดยกินเนสส์บุ๊ค ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2007 |
|
โดยกลางวิหารนั้นวัดความยาวได้ 356 ฟุต (109 เมตร) กว้าง 316 ฟุต (96 เมตร) และสูง 141 ฟุต (43 เมตร) |
|
ครอบคลุมพื้นที่ 86,342 ตารางฟุต (8,021.40 ตารางเมตร) แม้จะเป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ |
|
แต่ก็สร้างขึ้นอย่าง ยิ่งใหญ่อลังการตามรูปแบบศิลปะโบราณของอินเดีย |
|
ตกแต่งด้วยงานแกะสลักหินด้วยมือที่หรูหราโดยไม่มีเหล็กเป็นโครงสร้างแต่อย่างใด |
|
ภาพสลักคลุมตั้งแต่ฐานไปจนถึงด้านบน มีเสาแกะสลักถึง 234 เสา มีโดม 9 โดม มียอดศาลา 20 ยอด |
|
มีประติมากรรมแกะสลักเป็นรูปช้าง รูปบุคคล กูรูต่างๆ รูปดอกไม้ สัตว์ นางรำ นักดนตรี และเทวดามากกว่า 20,000 รูป |
|
โดยใจกลางของวิหารกลางมีรูปทองแดงของศาสดาองค์แรกประดิษฐานอยู่ พร้อมรูปสวามีทุกองค์ยืนเรียงรายหันหน้าเข้าหาศาสดา |
|
เหนือขึ้นไปบนเพดานเป็นรูปสลักเทพเจ้าฮินดูหลายร้อยองค์ นอกจากนั้นยังมีกำแพงรายที่ตกแต่งด้วยภาพแกะสลักมากมาย |
|
เป็นรูปสัตว์ต่างๆโดยเฉพาะช้าง ประตูหินแกะสลักเสา และหน้าต่างจำนวนมาก |
|
มีโรงภาพยนตร์ที่มีจอขนาดใหญ่ กว้าง 26 เมตร และสูง 20 เมตร |
|
ที่แสดงภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติการจาริกแสวงบุญของท่านสวามีนารายัน ยังมีอัฒจรรย์เป็นขั้นบันได |
|
ล้อมรอบน้ำพุดนตรีที่ทำเป็นรูปดอกบัวแปดกลีบอยู่กึ่งกลางบรรเลงเพลงให้ความเพลิดเพลินในยามค่ำคืน |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในเมืองเดลลี |
บ่าย |
จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชออกจากเขตปกครองพิเศษเดลลีผ่านเข้าสู่แคว้นอุตรประเทศ |
|
ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งเกษตรกรรมนานาชนิดที่ผลิตเพื่อเลี้ยงดูชาวอินเดียทั้งประเทศ ไปตามถนนไฮเวย์สายใหม่ |
|
ผ่านเมืองใหญ่ มัทธุระ (Mathura) และวรินดาวัน (Vrindavan) |
|
ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางศาสนาทางความเชื่อและตำนานของชาวอินเดีย |
|
สู่เมืองอัครา (Agra) ระยะทางจากเดลลีสู่อัคระ 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง |
|
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม MANSINGH /MARINA หรือเทียบเท่า |
เย็น |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก |
|
หลังอาหาร ปล่อยอิสระ ตามอัธยาศัย |
|
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก |
|
นำท่านเข้าชมทัชมาฮาล (Taj Mahal) แหล่งมรดกโลกอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ |
|
และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 |
|
นำท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิค เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อสิ่งรักที่จากไป |
|
นำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง แล้ว |
|
นำเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน |
|
เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย อาคารตรงกลางเป็นรูปโดม |
|
มีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล |
|
และพระเจ้าชาห์จาฮัน ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ ทัชมาฮาลนี้ใช้เวลา ก่อสร้างทั้งหมด 12 ปี |
|
สิ้นเงินไป 41 ล้านรูปี ใช้ทองคำประดับส่วนต่างๆ ของอาคารหนัก 500 กิโลกรัม ใช้คนงานกว่า 20,000 คน |
|
แล้วนำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนา ที่ฝั่ง ตรงกันข้ามมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว |
|
เล่ากันว่า พระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองเป็นหินอ่อนสีดำ ด้วยรูปแบบอาคารแบบเดียวกันกับทัชมาฮาล |
|
เพื่ออยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอัคราเสียก่อน |
|
จากนั้นนำท่านเข้าชม อัคราฟอร์ด (Agra Fort) แหล่งมรดกโลก ริมแม่น้ำยมุนา |
|
ที่สร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์ มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 |
|
เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) |
|
พระเจ้าชาห์ จาฮาน ได้สร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต |
|
นำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตูอำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านลานสวนประดับ |
|
อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรม 3 ยุคสมัย ตามรสนิยมที่แตกต่างกันของ 3 กษัตริย์ |
|
นำท่านเข้าชมด้านในพระตำหนักต่างๆ ที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย |
|
ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย แล้วนำขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่ 2 ที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของลำน้ำยมุนาได้ |
|
นำชมห้องที่ประทับของกษัตริย์ พระโอรส พระธิดาองค์ต่างๆ แล้วนำชมพระตำหนักมาซัมมัน บูร์ช |
|
ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ |
|
ที่พระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่าชาห์จาฮัน ถูกพระโอรสออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปีในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์ |
|
แล้วนำชมลานสวนประดับ ดิวันอีอาอำ ที่ชั้นบนด้านหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานบัลลังค์นกยูงอันยิ่งใหญ่ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิหร่าน) |
|
และที่ลานสวนประดับแห่งนี้เองที่พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้พบรักครั้งแรกกับพระนางมุมตัซ ที่นำสินค้าเป็นสร้อยไข่มุกเข้ามาขายให้นางในฮาเร็ม |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน |
บ่าย |
หลังอาหารนำท่านชมความงดงามของเมืองฟาแตห์ปูร์ สิครี (Fatehpur Sikri) อยู่ห่างจากอัคราประมาณ 40 กิโลเมตร |
|
สร้างโดยพระเจ้าอัครามหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล แต่เดิมเรียกว่า ฟาติฮาบัท แปลว่า “เมืองแห่งชัยชนะ” |
|
ด้วยในตอนนั้นกษัตริย์อัคบาร์ได้ชัยชนะในสงครามอินเดียตอนใต้ ต่อมาภายหลังจึงเพี้ยนมาเป็น ฟาติบูร์ |
|
ซึ่งเมืองฟาร์ติบูร์ สิครี สร้างด้วยหินทรายสีแดง ตั้งอยู่บนภูเขาใกล้หมู่บ้านสิครี ใช้เวลาสร้างถึง 9 ปี จึงแล้วเสร็จ |
|
แต่หลังจากนั้นเพียง 15 ปีก็กลายเป็นเมืองร้างเพราะว่าขาดน้ำในการดำรงชีวิต |
|
เมืองฟาร์ติบูร์ สิครี เป็นที่เดียวในอินเดียที่ท่านจะสามารถชมศิลปกรรมของราชวงศ์โมกุลที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบที่สุด |
|
จนได้รับสมญานามว่า เมืองปีศาจ นำท่านเดินทางต่อโดยรถโค้ชสู่เมืองชัยปูรระ (Jaipur) หรือเมืองสีชมพู(Pink City) |
|
ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1728 – 1732 ตัวเมืองมีขนาดถึง 9 ตารางกิโลเมตร |
|
ระยะทางอัครา สู่ เมืองฟาแตห์ปูร์ สิครี 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง |
|
และจากเมืองฟาแตห์ปูร์ สีครีสู่จัยเปอร์ 195 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง |
|
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม MANSINGH/RAMADA หรือเทียบเท่า |
เย็น |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม ปล่อยอิสระ |
|
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก |
|
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ช และเปลี่ยนเป็นรถจีฟขึ้นสู่เชิงเขาอราวารี |
|
เพื่อชมความงามของพระราชวังแอมเมอร์ (Amer Palace) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนภูผา |
|
เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพสองข้างทางซึ่งสามารถมองเห็นภูมิประเทศเบื้องล่างสุดสายตา |
|
พระราชวังแห่งนี้เริ่มสร้างโดยพระเจ้ามั่นใจซิงค์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1592 จนสำเร็จในยุคของพระเจ้าชาไวใจซิงค์ที่ 2 |
|
ต่อมาพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงลงมายังเมืองชัยปูร์ในปัจจุบันภายในพระราชวังแอมเบอร์ |
|
ท่านจะได้ชมพระราชวังฤดูร้อน ในปัจจุบันภายในพระราชวังแอมเบอร์ |
|
ท่านจะได้ชมพระราชวังฤดูร้อนและพระราชวังฤดูหนาวที่ประดับด้วยพลอยหลากสี |
|
ท่านจะตื่นตะลึงกับห้องที่ประทับในพระราชวังฤดูร้อนที่งดงาม โดยจำลองความงามของท้องฟ้ายามราตรี |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม Jaipur Green |
บ่าย |
นำท่านเข้าชมพระราชวัง (City Palace) หรือ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ |
|
ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงสูง นำชมงานศิลปวัฒนธรรม และงานหัตถกรรมต่างๆ |
|
จากนั้นนำท่านชมฮาวามาฮาล(Hawa Mahal) หรือพระราชวังสายลม (ถ่ายรูปด้านนอก) |
|
สร้างโดยพระเจ้าประทับซิงค์ ในปี ค.ศ. 1799 ใช้เป็นที่ที่สตรีชาววังในสมัยนั้น |
|
นั่งชมงานเทศกาลหรือขบวนแห่ต่างๆ ตลอดจนวิถีความเป็นอยู่ของผู้คนนอกวัง |
|
บานหน้าต่างที่ประดับประดาไว้ด้วยลวดลายอันวิจิตรตระการตา สร้างด้วยหินสีชมพูสูง 5 ชั้น |
|
กรุเป็นช่องตามหน้ามุขและหน้าต่างซึ่งรวมกันได้ ถึง 953 บาน |
|
ซึ่งในแต่ละช่องจะมีมุขระเบียงและหลังคาเพื่อระบายลม |
|
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ฮาวามาฮาล หรือพระราชวังสายลม |
|
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเดลลี |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในเมืองเดลลี |
|
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงเดลลี |