|
ทัวร์อินเดีย ตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
(บินไปกายา-บินกลับวาราณสี)
พระพุทธวาจา
ดูก่อนอานนท์.. ชนเหล่าใดเที่ยวจาริกไปยังเจดีย์ 4 สถานเหล่านั้นแล้ว
มีจิตเลื่อมใส ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้าแต่ตาย เพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
บุคคลใดบูชาสถานที่ประสูติ ได้ชีวิตดี ได้ความเป็นหนึ่ง ได้ความก้าวหน้า
บุคคลใดบูชาสถานที่ตรัสรู้ได้ปัญญา ความรู้แจ้ง ได้ชัยชนะที่ไม่กลับไปแพ้
บุคคลใดบูชาสถานที่แสดงปฐมเทศนา ได้บริวารช่วยงาน ได้ความไม่วุ่นวาย ได้ดวงตาเห็นธรรม
บุคคลใดบูชาสถานที่ปรินิพพาน ได้อายุยืนยาว ได้ทรัพย์สินมรดก ได้พ้นเครื่องเสียดแทง
วาจาของชาวพุทธทั่วไป กล่าวกันว่าเกิดมาเป็นชาวพุทธ
ถ้าไม่ได้ไปสังเวชนียสถานก็เสียทีที่เกิดมาในชาตินี้
ดังนั้นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันชาวพุทธทั่วโลกจึงได้ตั้งเป้าหมายเดินทางสักครั้งหนึ่งของชีวิต
สู่ดินแดนสังเวชนียสถานตามพุทธวาจา คนไทย 65 ล้านคนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวพุทธ
ร้อยทั้งร้อยอยากจะไปสักครั้งหนึ่ง ดังนั้นสำหรับ เราที่เกิดมาก็เป็นชาวพุทธแล้ว
การได้กลับไปยัง ณ ต้นกำเนิดแห่งพุทธศาสนาย่อมเป็นบุญของท่านที่ได้สามารถย้อนกลับไปทบทวน
และประพฤติปฏิบัติเป็นชาวพุทธที่แท้จริงสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของชาวพุทธทั้งมวล เพื่อจะได้พบสวรรค์ที่เป็นจริงตามพระพุทธวาจา
ช่วงเดินทาง: ต.ค. 2555 -มี.ค. 2556
กำหนดการเดินทางของทัวร์อินเดีย
ทัวร์อินเดีย วันเดินทางอื่นๆ ดูที่นี่
วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพ-กายา-พุทธคยา
10.30 น. |
คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิประตู 10 แถว W สายการบินThai r airline |
|
พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
12.30 น. |
เหิรฟ้าสู่เมืองกายา ประเทศอินเดีย(เวลาอินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง)โดย RDxxx |
13.30 น. |
ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองกายาตามเวลาท้องถิ่น |
|
ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถรับนำท่านเดินทางเข้าที่พัก |
เที่ยง |
รับประทานอาหารเที่ยง |
บ่าย |
เชิญท่านทำกิจกรรมอันพุทธศาสนิกชนพึงกระทำ ณ มหาสังฆารามอนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ |
|
โดยมีลำดับสถานที่แห่งการคารวะดังนี้ |
|
- แม่น้ำเนรัญชรา สถานที่ที่พระพุทธองค์ได้ทรงอธิษฐานลอยถาดข้าวมธุปายาสที่นางสุชาดาถวายก่อนทรงตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ
|
|
- บ้านนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาสก่อนการตรัสรู้
|
|
- นำชมวัดนานาชาติของชาวพุทธทั่วโลก
|
|
- ต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธองค์กล่าวกันว่าต้นโพธิ์แห่งนี้เป็น สะดือของโลก
คนโบราณเชื่อกันว่าสถานที่นี้เป็นแผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกเพราะเป็นที่ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะต้องมาทรงตรัสรู้ที่นี่
ดังนั้นต้นโพธิ์นี้จึงเป็นเสมือนขวัญใจของชาวพุทธทั่วโลกที่ต้องมาประกอบกิจกรรมบำเพ็ญภาวนาที่นี่
|
|
- พระมหาเจดีย์พุทธคยาสร้างอยู่ใกล้กับต้นโพธิ์ ภายในวิหารมีพระพุทธเมตตา
ซึ่งเป็นพระพุทธปฏิมากรที่สร้างด้วยหินแกรนิตสีดำในสมัยปาละ ปางมารวิชัยอายุกว่า 1400 ปีเศษ
พระพุทธรูปองค์นี้เป็นที่นับถือว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งทั้งชาวพุทธและฮินดู
|
|
- สัตตมหาสถาน คือสถานที่ทรงยับยั้งเพื่อเสวยวิมุตติสุขหลังจากทรงตรัสรู้แล้ว 7 แห่ง
แห่งละ 7 วัน คือ โพธิบัลลังก์ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์รัตนฆรเจดีย์ ต้นอชปาลนิโครธ ต้นมุจลินทร์ ต้นราชายตนะ
|
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย |
|
ท่านที่ต้องการไปนั่งสมาธิที่ต้นโพธิ์ก็ มีบริการรถรับส่ง |
|
และท่านที่ต้องการพักค้างคืนใต้ต้นโพธิ์กรุณาแจ้งล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จะได้ดูแลให้ทุกท่านได้ตามประสงค์ |
|
ท่านจะต้องเตรียมมุ้งไปด้วย หากไม่มีแจ้งล่วงหน้าจะจัดซื้อไปให้ 250 บาท |
|
|
วันทีสอง / พุทธคยา - ราชคฤห์ - นาลันทา - พุทธคยา - 180 กม / 6 ชม
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก |
|
ออกเดินทางสู่เมืองราชคฤห์(ระยะทาง 85 กม) นครหลวงแห่งแคว้นมคธมหาอำนาจหนึ่งในสี่ของชมพูทวีปในสมัยนั้น |
|
ซึ่งพระบรมศาสดาเลือกประดิษฐานพระพุทธศาสนาและทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ |
|
ประกาศความเป็นปึกแผ่นแห่งพระพุทธศาสนา ณ วัดเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ |
|
ขับรถ บนเส้นทางที่พ่อค้า นักพรต ดาบส นักบวช ในสมัยโบราณสัญจรด้วยเกวียนและเท้า |
|
ขุนทหารเคลื่อนทัพด้วยกำลังช้างม้า ปัจจุบันเราเดินทางด้วยยานยนต์ |
|
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็ถึงดินแดนแห่งนักปราชญ์ ที่ชุมนุมแห่งเจ้าศาสดา ลัทธิ |
|
เป็นตลาดเสรีทางการศึกษาแนวคิดความเชื่อและปรัชญาต่างมากมายในสมัย พุทธกาล |
|
จากนั้น นำท่านเดินขึ้นเขาคิชกูฏหนึ่งในเบญจคีรีที่ล้อมรอบกรุงราชคฤห์ ในยามเช้า |
|
เวลาเหมาะกับการเดินขึ้นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ |
|
ท่ามกลางการแสดงแสงสีเสียงจากธรรมชาติยามอาทิตย์อุทัย ขึ้นสู่มูลคันธกุฏี |
|
จุดสำคัญสุดที่ชาวพุทธเมื่อขึ้นเขาคิชกูฏ ต้องกำหนดไว้คือการไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ |
|
ณ มูลคันธกุฏี สถานที่ที่เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า |
|
รองลงมาคือถ้ำสุกรขาตาสถานที่ที่พระสารีบุตรอริยสงฆ์ ยอดกตัญญูสำเร็จเป็นพระอรหันต์ |
|
นมัสการถ้ำพระโมคคัลลานะ กุฏีของพระอานนท์และ เขาคิชกูฏมีความ สำคัญเนื่องจากเป็นที่สัปปายะของเหล่าพระอริยสาวก |
|
เป็นที่จำพรรษาของพระอรหันต์หลายองค์และเป็นสถานที่ทีพระพุทธองค์ได้ตรัสแสดงธรรมหลายพระสูตร |
|
เป็นสถานที่ที่แก้ข้อสงสัยว่าเปรตมีจริงหรือไม่และเป็นสถานที่ที่พระเทวฑัตลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า |
|
แต่ไม่สำเร็จ ได้เวลาสมควรเดินลงสู่เชิงเขารถรับ |
|
นำท่านแวะเยี่ยมชมวัดชีวกัมพวันโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลก แวะชมเรือนคุมขังพระเจ้าพิมพิสาร |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน |
บ่าย |
นำท่านนมัสการวัดเวฬุวนารามมหาสังฆยิกาวาส ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือของแม่น้ำสรัสวดี |
|
เป็น วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระอริยสงฆ์ 1250 องค์ |
|
มีสถูปที่บรรจุพระอัฐิธาตุของพระโมคคัลลานะและพระอัญญาโกญฑัญญะ |
|
และวัดเวฬุวันยังเป็นแหล่งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งการพัฒนาเกี่ยวกับวรรณคดีพุทธศาสนาด้วย |
|
เนื่องจากพระพุทธองค์ได้ยึดสถานที่แห่งนี้ให้เป็นจุดศูนย์รวมในการเผยแพร่คำสั่งสอนในดินแดนแห่งนี้ |
|
และยังได้แสดงพระสูตรและตรัสเล่าเรื่องชาดกต่างๆ รวมทั้งมีการบัญญัติสิกขาบทต่างๆ |
|
เดินทางสู่มหาวิทยาลัยนาลันทา (25กม. 45 นาที) แห่งเมืองนาลันทา |
|
อันเป็นมาตุภูมิของ 2 พระอรหันต์คือพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ |
|
และเคยเป็นศูนย์กลางของศาสนาเชน นาลันทาเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลกในยุคนั้น |
|
มหาวิทยาลัยแห่งนี้เคยมีนักศึกษาเป็นหมื่นคนมีอาจารย์ถึงสามพันคนสอนวิชาทุกอย่างที่มีในสมัยนั้น |
|
โดยมีวิชาหลักบังคับคือให้เรียนพระไตรปิฏก พระถังซำจั๋งก็เคยมาเป็นอาจารย์ที่นี่เช่นกัน |
|
นำชมมหาวิทยาลัยนาลันทาจากนั้นนำท่านนมัสการพระพุทธรูปองค์ดำอันศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย |
|
นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองพุทธคยา ถึงพุทธคยาเข้าที่พัก |
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น ให้ท่านพักผ่อนหรือไปนั่งสมาธิที่ต้นโพธิ์ตามอัธยาศัย |
|
|
วันที่สาม / พุทธคยา - ไวสาลี -เกศารี -กุสินารา
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก |
|
นำท่านเดินทางสู่เมืองไวสาลี เมืองหลวงของอาณาจักรวัชชี |
|
หนึ่งใน 16 แคว้นของชมพูทวีปในสมัยโบราณ เมืองนี้มีชื่อได้หลายชื่อคือ ไพสาลี เวสาลี ก็ได้ในสมัยพุทธกาล |
|
เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่ง |
|
และเป็นสถานที่กำเนิดของพระมหาวีระศาสดาของศาสนาเชน |
|
และเป็นสถานที่ต้นกำเนิด ของการทำน้ำมนต์ในพุทธศาสนาเนื่องจากได้เกิดทุพิกขภัยร้ายแรงทั่วเมือง |
|
เวสาลีมีคนตายมากมายกษัตริย์จึงได้นิมนต์ให้พระพุทธเจ้าได้มาโปรดชาวเมือง |
|
พระพุทธเจ้าได้พิจารณาแล้วว่าหากได้ตรัสรัตนสูตรและ ในกรุงเวสาลี |
|
นอกจากความเดือดร้อนจะสงบลงแล้วจะยังมีผู้คนจำนวนมากที่บรรลุมรรคผล |
|
จึงได้นำเหล่าภิกษุ 500 รูปเดินทางไปโปรดที่เมืองเวสาลีพร้อมทั้งได้มีการประพรมน้ำมนต์ทั่วทั้งเมือง |
|
นอกจากนี้เมืองเวสาลี ยังเป็นเส้นทางที่พระพุทธเจ้าได้ปลงสังขารที่ปาวาลเจดีย์ ในสวนของนางอัมพปาลี |
|
หญิงคณิกาแห่งเมืองเวสาลี และเป็นเส้นทางเสด็จผ่านเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปรินิพพาน |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน |
บ่าย |
หลังอาหารนำท่านชม เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่คงเหลืออยู่ |
|
จากนั้น เดินทางข้ามสะพานที่ยาวที่สุดในอินเดียสู่กุสินารา ดินแดนแห่งพุทธปรินิพพาน |
|
มหานครแห่งแคว้นมัลละตามรอยพระพุทธองค์ที่เสด็จจาริกด้วยพระบาทเปล่ามาที่กุสินารา ใช้เวลาถึง 90 วัน |
|
จากเวสาลีในขณะพระชนมายุ 79 พรรษา และทรงพระประชวร |
|
ในขณะที่เรานั่งรถปรับอากาศเดินทางด้วยระยะทางทั้งหมดเพียง 6-7 ชั่วโมง เท่านั้น |
|
ถึงกุสินารา นำทุกท่านเข้านมัสการพระที่โบสถ์วัดไทยที่กุสินาราแล้วเข้าที่พัก |
เย็น |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม ปล่อยอิสระ |
|
|
วันที่สี่ / กุสินารา - ลุมพินี
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก |
|
นำท่านทำกิจกรรมอันพุทธศาสนิกชนพึงกระทำ ณ มหาสังฆารามอนุสรณ์สถานี้ |
|
ดินแดนพุทธปรินิพพาน โดยมีลำดับสถานที่แห่งการคารวะสวดมนต์ ไหว้พระ วิปัสสนา ดังน |
|
- มหาปรินิพพานสถูป สถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละคู่
เป็นสถานที่รองรับหมู่พระอรหันต์ครั้งใหญ่สุด
เป็นพุทธสถานที่พระพุทธองค์ประทานการบวชให้สาวองค์สุดท้าย
เป็นที่ตรัสเทศนาปัจฉิมโอวาทสุดยอดแห่งพระธรรมคำสอนคือ ความไม่ประมาท
|
|
- พุทธวิหารปรินิพพาน ซึ่งภายในพระวิหารเป็นปฏิมากรรมพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน
ซึ่งมีอิทธิพลเหนือจิตใจของชาวพุทธผู้ที่ได้มีโอกาสเข้าไปกราบไหว้
ราวกับว่าได้มานมัสการพระบรมศพของพระศาสดาจริงๆ
และสร้างความรู้สึกให้ชวนคิดถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่มีสิ่งใดตั้งอยู่ค้ำฟ้า
จึงควรดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาทตามพระปัจฉิมโอวาทของพระพุทธองค์
|
|
- มกุฏพันธเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
|
|
- พราหมณ์เจดีย์ ซึ่งเป็นสถานที่แจกพระบรมสารีริกธาตุ
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร |
บ่าย |
ออกเดินทางสู่ลุมพินีวันในเขตประเทศเนปาล ซึ่งอยู่ในเขตเขาหิมาลัย |
|
ต้นธารของสายน้ำนานาก่อกำเนิดชีวิตแห่งหิมวันต์ประเทศ ป่าหิมพานต์ |
|
อาณาบริเวณที่บำเพ็ญพรตของ ดาบสเวสสันดรตามชาดกเป็นที่ตั้งแห่งขุนเขา |
|
มีภูเขาที่สูงสุดเหนือภูเขาทั้งปวงคือยอด เขาสิขรมุทธา ที่ทั่วโลกรู้จักในนามเอเวอร์เรสต์ |
|
ชาวฮินดูเรียกว่า สังการ์มาถา ชาวทิเบตเรียกว่า โสโม จุงกะมา |
|
ระยะการเดินทางจนถึงลุมพินีวัน 180 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. |
|
ผ่านเมืองโครักข์ปูร์เมืองพรมแดนของอินเดียเข้าสู่เมืองสิทธารัตถะของเนปาล เ |
|
ป็นสถานที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ |
เย็น |
ถึงพรมแดนอินเดีย-เนปาล ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง |
|
เดินทางเข้าสู่เมืองสิทธารัตถะเข้าที่พัก รับประทานอาหารเย็นพักผ่อนตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
|
ปล่อยอิสระ ตามอัธยาศัย |
วันที่ห้า / ลุมพินี - วารานสี
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก |
|
นำชมมหาสังฆารามอนุสรณ์สถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ โดยมีลำดับ |
|
สถานที่แห่งการคารวะเยี่ยมชม สวดมนต์ ไหว้พระ วิปัสสนา ดังนี้ |
|
- มายาเทวีวิหาร ภายในมีรูปพระนางสิริมหามายาเทวี
แกะสลักด้วยหินเป็นรูปพระพุทธมารดายืนประทับเหนี่ยวกิ่งสาละอยู่พร้อมกับพระสนม
และข้างหน้าเป็นรูปเจ้าฟ้าชายสิทธัตถะกุมารกำลังก้าวพระบาทไปบนดอกบัว
เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากของชาวฮินดู-เนปาลมีผู้มาสักการะโดยสม่ำเสมอ
|
|
|
|
- วัตถุสถานเสนาสนะสงฆ์และเจดีย์ที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้สร้างไว้เป็นพุทธบูชาตลอดมาไม่ขาดสายตั้งแต่โบราณกาล
|
|
ได้เวลาสมควรเดินทางสู่เมืองวาราณสี |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร |
บ่าย |
ถึงเมืองวารานสี นำท่าน เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย |
เย็น |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
19.00 น. |
นำชมพิธีบูชาไฟของฮินดู ณ แม่น้ำคงคา |
|
ปล่อยอิสระ ตามอัธยาศัย |
วันที่หก / วารานสี-สารนาถ (15 นาที.)-กรุงเทพฯ
เช้าตรู่ |
นำท่านเดินทางสู่แม่น้ำคงคา ล่องเรือในแม่น้ำคงคาซึ่งชาวฮินดูเชื่อถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ |
|
เพราะไหลมาจากมวยผมขององค์พระศิวะ (ตามหลักสูตรภูมิศาสตร์แม่น้ำนี้ไหลมาจากที่ราบสูงทิเบตเทือกเขาหิมาลัย ประเทศจีนและเนปาล) |
|
สถานที่ที่คนนับล้านมุ่งหน้ามาเพื่อสัมผัสกับลัทธิ พิธีกรรม ริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ |
|
สถานที่ที่เหมาะสำหรับชาวพุทธจะได้เรียนรู้ชีวิตของมนุษย์อย่างแท้จริงเป็นคัมภีร์ชีวิตที่ยากที่จะหาที่ไหนชมได้นอกจากที่พารานสีแห่งนี้ |
|
ชมพิธีกรรมของชนจำนวนมากหลากวัยหลายชนชั้น นับตั้งแต่ร่างกายที่ไร้วิญญาณเน่าเปื่อยจนขึ้นอืดลอยไปใกล้กับพวกเด็กที่กำลังจับปลา |
|
หญิงชาวบ้านซักผ้า พ่อค้าขายของ ฮินดูชน อาบน้ำล้างบาป นักบวชง่วนกับการทำพิธีบูชา |
|
สับเหร่อโกยเถ้าถ่านที่เผาศพทิ้งลงแม่น้ำ ชาวบ้านหน้าตาโศกเศร้ากำลังกราบไหว้ขอพรพระศิวะผ่านสายน้ำแม่คงคา |
|
คู่บ่าวสาวแต่งกายสวยงามที่มีความสุขเดินทางมาตักน้ำรดเพื่อขอพรพระศิวะ |
|
คนเฝ้าศิวาลัยรอรับเงินบริจาคในนามพระเจ้า ขอทานเรียงรายรอรับเงินบริจาคในนามของผู้ยากไร้ |
|
หญิงม่ายผู้อุทิศตนใช้ชีวิตที่เหลือสวดมนต์ให้สามีผู้วายชนม์ ชีวิตหลากหลายตั้งแต่ไพร่ยันผู้ดีร่ำรวยล้นฟ้า |
|
ล้วนแต่เดินทางมาเพื่อขอพรพระแม่คงคาอันศักดิ์สิทธิ์หน้าเมืองพารานสี |
|
ท่ามกลางความมัวสลัวของกลุ่มกองไฟที่เหล่าพราหมณ์จุดถวายบูชาพระเจ้าและกองฟืนที่ไม่เคยดับตลอดระยะเวลาสี่พันปี |
|
ีกำลังทำหน้าที่เผาร่างอันไร้วิญญาณของเหล่าชนฮินดูอย่างไม่ยอมหยุดพัก |
|
เรียนรู้ชีวิตที่ล้วนแต่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น |
|
แล้วถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรและจะไปทางไหน |
เช้า |
ทานอาหารเช้า ที่โรงแรม |
|
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่ง |
|
เป็นสำนักสงฆ์ที่ใหญ่โตที่ได้ตั้งมั่นอยู่ในดินแดนแห่งหลากหลายเจ้าลัทธิและศาสนา |
|
และเป็นสังเวชนียสถานแห่งหนึ่งคือเป็นสถานที่แสดงปฐมเทศนา โปรดเบญจวัคคีย์ทั้งห้า ก่อนพุทธศก 45 ปี |
|
ีเป็นสถานที่สำคัญเนื่องจากว่า สังฆรัตนะได้เกิดขึ้นสมบรูณ์ครั้งแรกในโลก |
|
ที่นี่บุญสถานที่ผู้แสวงบุญได้มาไหว้พระ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และเยี่ยมชมโดยมีลำดับดังนี |
|
- มูลคันธกุฏีที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาแรกและพรรษา 12 อยู่ที่นี่
|
|
- ธัมเมกขสถูป อันแปลว่า สถานที่แสดงธรรมที่นำพาให้ถึงความหลุดพ้น
|
|
- สถูปเจาคันธี ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์ที่ปัญจวัคคีย์ได้พบกับพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก
และได้ทำความเข้าใจกันเบื้องต้นก่อนนำไปสู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
|
|
- ยสเจดียสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมให้กับยสกุลบุตรจนดวงตาเห็นธรรม
|
|
- ธรรมราชิกสถูปเป็นสถูปที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาก่อน
|
|
- พิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้ในสารนาถ
รวมทั้งเป็นที่ตั้งแสดงพระปฏิมากรรมปางปฐมเทศนาที่งามเป็นเลิศในแบบฉบับทางศิลปกรรมที่งามที่สุดของอินเดีย
ควรแก่การเข้าเยี่ยมชมและคารวะนอกจากนั้นยังมีหัวเสาอโศก วัตถุโบราณเกี่ยวกับศาสนาพุทธ พราหมณ์อีกมากมาย
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารเที่ยง อาหารไทย ที่วัดไทยสารนาถ |
บ่าย |
จากนั้นเดินทางไปสนามบิน |
15.30 น. |
เหิรฟ้าจากวารานสีสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบิน Thai R Airline เที่ยวบินที่ RDxxx
|
20.30 น. |
ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ |
|
|
กำหนดการเดินทางของทัวร์อินเดีย
ทัวร์อินเดีย วันเดินทางอื่นๆ ดูที่นี่
อัตราค่าบริการ
- หมายเหตุ ราคาและรายการดังกล่าวเป็นราคาโดยประมาณและรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของเงินบาทที่ไม่คงที่ / การเปลี่ยนแปลงเวลาของสายการบิน / สภาวะทางอากาศถนนหนทาง อุบัติภัย
โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าได้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทางบริษัทฯจะยึดถือผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
- คำเตือน U สนามบินสุวรรณภูมิ “ไม่มีการประกาศเรียกลูกค้าขึ้นเครื่อง”
หากท่านตกเครื่องไม่สามารถเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์หรือเรียกร้องคืนค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
- กรุณาตรงต่อเวลาตามนัดหมาย เคาน์เตอร์เช็คอินปิด ก่อนเครื่องออก 1 ชั่วโมง
อัตราค่าบริการ (สำหรับ 15 ท่านขึ้นไป)
กำหนดวันเดินทาง |
ผู้ใหญ่ พัก 2 ท่าน |
พักเดี่ยวเพิ่ม |
7-12, 14-19, 21-26 ต.ค, 2555 |
34,000.- |
5,000.- |
4-9,18-23 พ.ย, 2-7, 9-14, 23-28 ธ.ค 2555 |
35,500.- |
5,000.- |
20-25 ม.ค, 3-8, 17-22 ก.พ. 2556 |
35,500.- |
5,000.- |
3-8, 10-15, 17-22, 24-29 มี.ค. 2556 |
34,000.- |
5,000.- |
โรงแรม (เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบไม่มีเตียงลดท่านละ 10,000.- บาท, เด็กอายุมากกว่า 6 ขวบมีเตียงลดท่านละ 5000 บาท)
Bodhgaya – Hotel Delta International / Tokyo / Taj , Varanasi – Hotel India / Zeeras /
Kushinagar – Hotel Nikko Lotus. , Lumbini –Hotel Budhmaya/Nansc Sravasti -Hotel Ashok Green
พักวัด |
ผู้ใหญ่ พัก 2 ท่าน |
พักเดี่ยวเพิ่ม |
7-12, 14-19, 21-26 ต.ค, |
29,000.- |
- |
4-9, 18-23 พ.ย, 2-7, 9-14, 23-28 ธ.ค 2555 |
30,500.- |
- |
20-25 ม.ค, 3-8, 17-22 ก.พ. 2556 |
30,500.- |
- |
3-8, 10-15, 17-22, 24-29 มี.ค. 2555 |
30,500.- |
- |
(ราคาอาจเปลี่ยนแปลงหากตั๋วเครื่องบินเปลี่ยนแปลง)
อัตรานี้รวมค่าบริการ
- ค่าเครื่องบินระหว่างประเทศ ชั้นประหยัด กรุงเทพฯ-กายา//วารานสี-กรุงเทพฯ/
- ค่าประกันอุบัติเหตุ ท่านละ 1,000,000 บาท
- ค่ารถบัส (ปรับอากาศ ขนาด 35-42 ที่นั่งขึ้นไป) ตลอดการเดินทาง
- ค่าที่พักโรงแรม 2-3 ดาวตามที่ระบุไว้ในรายการ
- ค่าธรรมเนียมสถานที่ต่างๆ
- ค่าวีซ่าประเทศอินเดียและประเทศเนปาล
- ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุไว้ในรายการ
- ค่าขนกระเป๋าเดินทาง (ไม่เกินท่านละ 20 ก.ก.)
- ค่ามัคคุเทศก์ชาวไทยและชาวอินเดีย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
อัตรานี้ไม่รวมค่าบริการ
- ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น( ประมาณ 100 รูปีต่อวันต่อคนสำหรับทั้งไกด์+คนขับ)
- ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางและเอกสารต่างด้าว
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ โทรสาร ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและค่าใช้จ่ายที่ นอกเหนือจากที่ระบุ
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % ภาษีการเดินทาง
การชำระค่าบริการ (ผู้ที่ชำระเงินมัดจำก่อนได้สิทธิ์ในการจัดที่นั่งก่อนตามลำดับ)
1. กรุณาชำระมัดจำการเดินทางท่านละ 10,000 บาท ณ.วันจอง พร้อมส่งเอกสารให้บริษัท เพื่อทำวีซ่า
2. ชำระค่าใช้จ่ายในการเดินทางส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วัน
เงื่อนไขการยกเลิก
1. ภายใน 7 วันก่อนเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าเดินทาง
2. ภายใน 10 วันก่อนเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ คืนเงินค่าเดินทางเพียง 25%
3. ภายใน 14 วันก่อนเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ คืนเงินค่าเดินทางเพียง 50%
4. ภายใน 20 วันก่อนเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินมัดจำ 5,000 บาท
เอกสารการขอวีซ่า
- หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลืออยู่ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง
- รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ต้องเป็นรูปสีและพื้นสีฟ้าเท่านั้น)
- บัตรประชาชน (ถ่ายเอกสาร),ทะเบียนบ้านปัจจุบัน (ถ่ายเอกสาร)
**กรณีถูกปฏิเสธวีซ่า ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าวีซ่าและค่าดำเนินการที่เกิดขึ้นจริง**
หมายเหตุ
- บริษัทฯ ของสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมและเงื่อนไขทั้งหมดโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ
เหตุการณ์ทางการเมือง ภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า
หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งนี้บริษัทฯ จะคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ปฎิเสธผู้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย
หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม
ที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณา และไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ไม่ว่าจำนวนทั้งหมด หรือบางส่วน
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าวีซ่า, ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ หากทางบริษัทได้ดำเนินการไปแล้ว
พิเศษ จากเรา
- ราคาที่นำเสนอพิเศษสุดกว่าที่อื่น แต่มากด้วยคุณภาพกว่ามากมาย
- มีการชี้แนะสินค้าที่ควรซื้อให้ในราคาถูก ๆ ไม่มีจุดประสงค์ในการพาไปเชือดเหมือนทัวร์ทั่วไป
- เราแจกหมวก ให้คนละ 1 ใบ
- แจกกระเป๋าใส่ดินสอและปากกาได้ ให้ 1 ใบ
- แจก ยาหม่องน้ำ ให้ 1 ขวด
- แจก พัดมือถือ คนละ 1 อัน 555
สนใจในการจอง
โอนเงินมัดจำ ในการจอง ทัวร์ คนละ 10,000 บาท
ชำระส่วนที่เหลือให้หมดก่อน 15 วัน ของวันเดินทาง
โอนมาที่ ธนาคารใด ธนาคารหนึ่ง ในนาม สมปอง เจนชัยจิตรวนิช
ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา สาขา สี่แยกวังหิน บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 2140013280
ธนาคาร กสิกรไทย สาขา รัชดา-ห้วยขวาง ในบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 089-1069251
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย เซ็นทรัลปิ่นเกล้า บัญชี ออมทรัพย์ เลขที่ 183-2 10718-9
ธนาคาร กรุงเทพ สาขาย่อย เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 095-0-20209-3
หลังการโอนเงิน
กรุณา ส่งหลักฐานต่างๆ ที่แจ้งไว้ด้านล่างนี้ มาที่............
- Fax 02-9481866
หรือ สแกนหลักฐาน ส่งมาที่ อีเมล์ jenchai624@hotmail.com
- สำเนาการโอนเงิน
- เบอร์โทรติดต่อกลับ ของ ผู้จอง และเพื่อนร่วมทาง
- กำหนดวันเดินทาง / ทริปที่ไป / วันเดินทาง
- หากไปต่างประเทศ ขอสำเนาพาสปอต
- สำเนาบัตรประชาชน กรณี ยังไม่มีพาสปอตในขณะนั้น ( ใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน )
สมปอง ทัวร์ /
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว เลขที่ 11 / 05588
Website : www.programtour.com
Email : jenchai624@hotmail.com
Chat : msn : jenchai624@hotmail.com
Chat : Skype : jenchai624
Office 1 : : ตลิ่งชัน 02-8867018-9
Office 2 : รามอินทรา : 02-9481866
Mobile : ไทย : 089-9246304, 087-5149753,
Mobile : เวียดนาม : 091-6003612
|