โปรแกรมทัวร์เวียดนามนี้ ขอเสนอ................
ท่องเที่ยวเวียดนามเหนือ ที่ฮานอย
สถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนามเหนือ
กรุงฮานอย เวียดนามเหนือ
เป็นเมืองหลวงของเวียดนาม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1553 มีอายุ 1,000 ปีแล้ว
อันเป็นปีที่จักรพรรดิลีไทโตสถาปนาพระราชวงศ์ทาลอง (ทาลอง หมายถึง มังกรผงาด) ขึ้นในดินแดนแห่งนี้
จึงนับเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่และสวยงามอีกแห่งหนึ่งที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน
คำว่า “ฮา” แปลว่า แม่น้ำ อันหมายถึงแม่น้ำแดง และ “นอย” แปลว่า ข้างใน
ซึ่งรวมความแล้ว จะหมายถึง เมืองบนฝั่งโค้งแม่น้ำ(แดง)
เมื่อเวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสนั้น เมืองฮานอยได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยขึ้น
ดังนั้น ลักษณะของเมืองฮานอยจึงสะท้อนให้เห็นถึงความกลมกลืนของความก้าวหน้า
และประเพณีเดิมที่มีอยู่ มรดกทางสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสในเมืองฮานอย
ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศโรแมนติกต่างจากเมืองหลวงอื่นๆ ของเอเชีย
ตลอดสองฟากถนนเราสามารถเห็นตึกสไตล์โคโลเนียลอยู่เรียงรายสองข้างทาง
แต่น่าเสียดายว่าผลของสงคราม ความขัดสนทางการเงิน และการขาดแคลนวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ
ได้ส่งผลกระทบให้อาคารประวัติศาสตร์ต่างๆ อยู่ในสภาพทรุดโทรมไปมิใช่น้อย
อย่างไรก็ดี ความโดดเด่นของเมืองนี้ก็ยังเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งหลายให้มาเยือนอยู่เสมอ
ตลอดช่วงเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมาของเวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเมืองอีกหลายครั้ง
ฮานอยตั้งอยู่ใจกลางสันดอนลุ่มแม่น้ำแดงในภาคเหนือของประเทศ มีทะเลสาบน้อยใหญ่ถึง 18 แห่ง
มีทะเลสาบมาประจมเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด
และมีทะเลสาบใจกลางกรุงที่ขึ้นชื่ออย่าง โฮฮว่านเกี๋ยม หรือทะเลสาบคืนดาบนั่นเอง
นับเป็นเมืองหลวงขนาดเล็กที่มีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองหลวงของประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย
ดังนั้น เมื่อคุณเดินทางมาถึงฮานอยจุดแรกที่ควรไม่ควรพลาดคือการไปเริ่มต้นที่ ทะเลสาบโฮฮว่านเกี๋ยม
ซึ่งเป็นย่านการค้าที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง มีถนนสายเล็กๆ 36 สายตัดสลับกันไปมา
ชาวเวียตนามเรียกถนนสายนี้ว่า บาเมื่อยเสาโฟเฟือง แปลว่า 36 ถนน
ชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อ โอลด์ควอเตอร์ หรือถนน 36 สาย
บรรยากาศของตลาดนี้คล้ายกับเยาวราชในประเทศไทย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ทั้งโรงแรม เกสต์เฮาส์ บริษัทนำเที่ยว ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านอาหาร
สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของเวียดนามจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านเก่าในเมืองฮานอย
การเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองฮานอย ที่เวียดนาม
พาหนะในการเดินทางเที่ยวชมเมืองฮานอยนั้นมีหลากหลายประเภท
- จักรยาน พาหนะยอดนิยมของนักท่อเที่ยวในการขี่เที่ยวชมรอบตัวเมือง
สามารถหาเช่าได้ตามโรงแรมในประเทศเวียดนาม ราคาประมาณ 30,000 ดอง/วัน
- หรือถ้าจะนั่งเที่ยวชมแบบสบายๆ ก็มีบริการของซิโคล่
สามล้อถีบที่เราต้องนั่งอยู่ด้านหน้า และคนให้บริการปั่นจักรยายอยู่ด้านหลัง
มีให้เลือกทั้งแบบนั่งชมรอบเมืองในราคาประมาณ 50,000 ดอง/คน
หรือจะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ราคาตามแต่จะตกลง
- มอเตอร์ไซด์ มีให้เช่า เป็นรายวัน หรือ รายเดือน แล้วแต่ข้อตกลงกัน
- บริการ รถเช่า ต่างๆ ก็มีให้บริการ
- รถประจำทาง ในฮานอย ไม่แนะนำให้ไปใช้บริการครับ
|
|
|
|
|
ทะเลสาบตะวันตก |
เมืองฮานอย เวียดนาม |
ตลาดโดงชวน เวียดนาม |
ชาวเวียดนาม ฮานอย |
วิหารวรรณกรรม |
ในเมืองฮานอย ยังมีสถานที่สำคัญ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
จัตุรัสบาดิงห์ ในเมืองฮานอย
บริเวณจัตุรัสบาสดิงห์นี้เองที่โฮจิมินห์ อ่านคำประกาศอิสรภาพของเขาในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2488
และอีก 34 ปีต่อมา ในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2512 ยังเป็นวันเสียชีวิตของโฮจิมินห์อีกด้วย
สุสานของโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’ s Mausoleum) ฮานอย เวียดนามเหนือ
ตั้งอยู่บนถนนเดียนเบียนฟู (Dien Bien Phu) บริเวณจัตุรัสบาสดิงห์ (Ba Dinh)
สุสานแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2516 เสร็จในปี พ.ศ. 2518
เป็นอาคารหินอ่อนและหินแกรนิตรวมถึงไม้เนื้อดีจากทั่วประเทศ เป็นอาคารที่โดดเด่นและสง่างามมาก
โดยมีชื่อในภาษาเวียตนามว่า จู่ติกโอจิมินห์ (Lang Chu Tich Ho chi Minh ) ด้านในจะพบกับศพโฮจิมินห
์ ซึ่งอาบน้ำยาอยู่ในโลงแก้วเพื่อให้ผู้คนที่เข้ามาชมได้รู้จักผู้นำที่มีความแข็งแกร่ง
ทั้งที่นี่เป็นการกระทำซึ่งขัดต่อความต้องการของโฮจิมินห์ เพราะท่านต้องการให้เผาร่างเมื่อตายลง
สำหรับห้องนี้ไม่อนุญาตให้นำกล้องถ่ายรูป วีดีโอ โทรศัพท์ หรือกระเป๋าทุกชนิดเข้าไปโดยเด็ดขาด
หลังสุสานโฮจิมินห์ มีสวนสาธารณะที่เงียบสงบร่มรื่นและมีสระน้ำเล็กๆ
และบ้านที่สร้างบนเสาสูงซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของโฮจิมินห์
สุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ที่ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518
เพื่อเป็นการรำลึกถึงท่านโฮจิมินห์ประธานาธิบดีคนแรก ผู้เป็นที่เคารพรักยิ่งของชาวเวียดนาม
คนไทยมักเรียกท่านว่า “ลุงโฮ” สุสานนี้สร้างด้วยหินอ่อน และหินแกรนิตสีเทา สูง 21 เมตร
ภายในสุสานจะมีห้องโถงใหญ่ ซึ่งตรงกลางจะมีโลงแก้วครอบศพของลุงโฮที่มองดูคล้ายคนนอนหลับตั้งอยู่บนแท่นหิน
และมีทหารกองเกียรติยศในชุดสีขาว ถือดาบปลายปืนยืนรักษาการณ์อยู่โดยรอบ
อากาศข้างในจะเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบ ผู้ที่จะมาเยี่ยมคารวะศพลุงโฮ จะเดินไหลไปตามทางเดินแคบๆในลักษณะ One way
ผ่านโลงแก้วดังกล่าว พอมองเห็นศพลุงโฮได้แว่บหนึ่ง ทหารก็จะคอยสั่งให้รีบเดิน เพื่อให้คนหลังได้ดูต่อไป
เพราะแต่ละวัน จะมีทั้งนักท่องเที่ยว และชาวเวียดนามมาเยี่ยมชมและเคารพศพลุงโฮไม่น้อย
และที่นี่ห้ามนำกล้องหรือกระเป๋าสะพายเข้าไปในอาคารเด็ดขาด ต้องฝากไกด์เอาไว้
อันที่จริง ลุงโฮ หรือท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ เมื่อตายไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ 2512
ท่านได้สั่งนักสั่งหนาให้เผาศพท่าน แต่รัฐบาลเวียดนามไม่ยอม
สุสานแห่งนี้จึงได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บศพของท่าน
พร้อมทั้งได้ขอให้รัฐบาลรัสเซียมิตรประเทศของเวียดนาม ดองศพของลุงโฮให้
เพราะการดองศพให้มีลักษณะคล้ายคนนอนหลับที่เราเห็นจากศพลุงโฮ เป็นตัวอย่างนี้
ถือเป็นความก้าวหน้าและความลับทางการแพทย์ของรัสเซีย ที่แพทย์ทางซีกโลกตะวันตกยังไม่มีความชำนาญเท่า
และแต่ละปีทุก 3 เดือนประมาณเดือนตุลาคม-ธันวาคม ศพลุงโฮจะถูกนำกลับไปรัสเซีย
เพื่อรอรับการเปลี่ยนน้ำยาและทำความสะอาดใหม่ เพื่อให้ร่างของท่านมีอายุไปชั่วนิรันดร์
ตราบเท่าที่ชาวเวียดนามยังรักบูชาท่านอยู่ แต่ปัจจุบัน ไกด์เล่าว่า.............
ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียจะเดินทางมาทำการเปลี่ยนน้ำยาให้ที่เวียดนามเลย
ดังนั้น ใครไปช่วงนั้นก็จะมิได้เห็นท่าน รวมถึงวันจันทร์ และวันศุกร์ที่เขาปิดสุสานด้วย
ดังนั้น ใครอยากไปชมต้องดูวันให้ดี ตอนที่พวกเราได้เข้าไปเคารพศพลุงโฮที่สุสานนั้น
โชคดีที่ว่าไกด์ของเราได้แนะนำว่า เขารู้จักกับคนที่นั่น หากเราไม่อยากไปเข้าคิวต่อแถวยาวเหยียดแบบนักท่องเที่ยวทั่วไป
ก็ให้ไปเป็นแขกเกียรติยศโดยถือหรีดไปคารวะ เสียค่าหรีดเพียง 600 บาท
ซึ่งพวกเราก็ยินดี เมื่อไปถึงจึงตั้งเป็น 2 แถว มีทหารมานำ เอาหรีดไปเคารพหน้าสุสาน
และให้เข้าไปเยี่ยมคารวะศพลุงโฮได้โดยไม่ต้องไปต่อแถวให้เสียเวลา
เจดีย์เสาเดียว อยูกลางเมืองฮานอย ที่เวียดนามเหนือ
ที่สร้างในปี 1049 สมัยราชวงศ์หลี เป็นเจดีย์ไม้ที่งดงาม ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียวกลางสระบัว
มีรูปแม่กวนอิม ประดิษฐานอยู่ ชาวเวียดนามมักมาขอบุตรจากเจ้าแม่เสมอ
เจดีย์เสาเดียว ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลาเก๋งจีนสร้างด้วยไม้ ตั้งอยู่บนต้นเสาต้นเดียว
ปักอยู่กลางสระบัว อายุกว่า ๙๐๐ ปี ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิน 10 กร
ตามตำนานเล่าว่า พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่ง อยากได้พระราชโอรสมาก และรอมานานก็ไม่สมหวังสักที
จนวันหนึ่งได้สุบินเห็นพระโพธิสัตว์กวนอิมปรากฏองค์อยู่กลางสระบัว และประทานพระโอรสมาให้
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ทรงมีพระราชโอรสสมปรารถนา จึงได้สร้างวัดแห่งนี้กลางสระบัวเพื่อถวายเป็นราชสักการะ
หลังจากไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมแล้ว พวกเราก็เดินต่อไปยังพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
ที่ออกแบบและก่อสร้างโดยช่างจากรัสเซีย เป็นสถานที่เก็บรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ของลุงโฮ
ตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ และขั้นตอนการปฏิวัติ การกอบกู้เอกราช จวบจนวาระสุดท้ายของท่าน
พิพิธภัณฑ์ โฮจิมินห์ ในฮานอย
ตั้งอยู่หลังสวนสาธารณะใกล้ๆ กับจัตุรัสบาดิงห์
เดินผ่านสวนสาธารณะที่มีเจดีย์เสาเดียวตั้งอยู่ ก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
เป็นรูปแบบของอาคารสมัยใหม่ขนาดใหญ่ มีการจัดแสดงนิทรรศการมากมาย
มีการถ่ายภาพขาวดำ ในสมัยสงคราม ซึ่งจะได้เห็นความเป็นอยู่ของเหล่าทหารกู้ชาติอีกด้วย
และเรื่องราวการสู้รบในสมัยครามเวียตนาม
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (History Museum) ฮานอย
ตั้งอยู่หลังโรงละครฮานอย ค่าเข้าชม 15,000 ดอง
สำหรับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์หรือชาวเวียตนามเรียก Bao Tang Lich แห่งน
ี้เป็นอดีตเป็นสถาบันวิจัยทางโบราณคดีของสำนักฝรั่งเศสแห่งปลายบุรทิศ (Ecole Hrancaise d’Extreme Orient)
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2453 สร้างใหม่ปี 2469 ก่อนจะเปิดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2475
ซึ่งสิ่งที่นำมาจัดแสดงไว้ที่นี่ครอบคลุมถึงประวัติศาสตร์เวียตนามทุกสมัย
เป็นโบราณวัตถุที่หาดูได้ยากยิ่ง มีกลองสำริดโบราณ
ซึ่งเป็นศิลปะอันงดงามของพวกจามที่แพร่เข้ามาในประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ยังมีเครื่องถ้วยชาม และเจ้าแม่กวนอิมปางประหลาด
รวมถึงห้องจัดแสดงของใช้สิ่งของต่างๆ ของกษัตริย์ 13 พระองค์แห่งราชวงศ์เหวียน
หากชอบเกี่ยวกับโบราณคดีคุณจะได้สัมผัสรากฐานแห่งอารยธรรมได้ดีทีเดียว
พิพิธภัณฑ์ทหาร (Army Museum) ในฮานอย
ตั้งอยู่บนถนนเดียนเบียนฟู (Dien Bien Phu) ค่าเข้าชม 10,000 ดอง
เปิด 08.00 – 11.30 น. และ 13.30 – 16.30 น. หยุดวันจันทร์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงการประกาศอิสรภาพ
และการรวมชาติของเวียตนามและแสดงให้เห็นถึงการทำสงครามกับมหาอำนาจอย่างฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา
โดยภายในพื้นที่ได้นำซากเครื่องบินทิ้งระเบิด B52 มาจัดให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม
เมื่อเข้าไปด้านในก็มีภาพถ่ายของนักรบที่ร่วมกันชนะสงคราม เครื่องแบบทหารอเมริกา
และยังมีโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กๆ ซึ่งฉายภาพช่วงท้ายๆ ของสงครามเวียตนาม
สำหรับที่นี่ชาวเวียตนามออกเสียงว่า บ่าว ตาง กวาน โด่ย (Bao Tang Quan Doi พิพิธภัณฑ์ทหาร)
เจดีย์เจิ่นก๊วก ในเมืองฮานอย
อยู่ริมทะเลสาบตะวันตก ( west lake ) บรรยากาศร่มรื่น คนเวียดนามให้ความศรัทธาสูงมาก
และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนต่างประเทศที่มาเยือนเวียดนามต่างพากันมาแวะชมกันทั้งนั้น
ทะเลสาบตะวันตก เป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่มีอยู่มากมายในเมืองฮานอย ของเวียดนาม
เป็นทะเลสาบที่สวยมากแห่งหนึ่งมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้เราลงไปเล่นในทะเลสาบ
เช่นเรือถีบ, ตกปลา, หรือจะนั่งตามร้านอาหาร หรือเครื่องดื่มต่างๆ ริมทะเลสาบแห่งนี้
โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St Joseph Cathedral) ในฮานอย
ตั้งอยู่บนถนนยาจุง (Nha Chung) ทางด้านเหนือของทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม ของกรุงฮานอย
เมื่อจักรวรรดิฝรั่งเศสเข้าปกครองเวียตนามและได้จัดการเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ให้ทันสมัย
ได้ทำให้ความเชื่อและสิ่งก่อสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ได้ถูกทำลายทิ้งไปพอสมควร รวมถึงที่นี่ด้วย
เพราะก่อนจะสร้างโบสถ์แห่งนี้ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของเจดีย์บ่าวเทียน (Bao Thien) และถูกทำลายลงตอนสร้าง
โบสถ์เซนต์โจเซฟ ทำให้ที่นี่เป็นโบสถ์เก่าที่สุดในฮานอย เริ่มเปิดครั้งแรกในคืนคริสต์มาสปี พ.ศ. 2429
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนที่นี่ด้วยความศรัทธาและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ใกล้ๆ กันมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน และมีร้านอาหารไว้คอยให้บริการอยู่
ตลาดโดงชวน ที่ฮานอยในเวีดยนามเหนือ
เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของเวียดนามเหนือ อยู่ในเมืองฮานอยนี่เอง
เป็นแหล่งรวมสินค้าเวียดนามจากทุกภาคของปรุเทศเวียดนามต่างนำมาจำหน่ายกันที่นี่ เดินจนเมื่อยเชียวแหละ
ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Ho Hoan Kiem หรือ ทะเลสาบคืนดาบ ในฮานอย
ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าของฮานอย ทะเลสาบแห่งนี้มีตำนานเล่าว่า พระเจ้าเลไทโต (Le Thai Yo)
กษัตริย์เวียดนามทรงได้รับดาบวิเศษมาจากเต่าทองตัวหนึ่ง
เพื่อใช้ต่อสู้กับราชสำนักหมิงของจีน เป็นเวลาร่วม 10 ปี เมื่อสามารถปลดปล่อยประเทศได้แล้ว
พระองค์ได้ทรงลงเรือถือดาบไปกลางทะเลสาบ และเต่าทองหรือเต่าเทวดาก็ได้ขึ้นมาคาบดาบวิเศษเล่มนั้นคืน
พร้อมดำน้ำหายไป จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งกลางทะเลสาบ
หากมองไปกลางทะเลสาบจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18
มีชื่อเรียกว่า ทาพรัว (Thap Rua) ซึ่งหมายถึง หอคอยเต่า
และในปัจจุบันยังมีหลายคนบอกว่าเห็นเต่าขนาดใหญ่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดูกาล
ยังมีหอคอยที่ชื่อว่า “ทาพ-รัว” ที่แปลว่าหอคอยเต่า อยู่ด้วย และว่ากันว่าเต่าก็ยังคงอาศัยอยู่ในทะเลสาบนี้
วัดหง็อกเซิน ( Ngoc Son หรือ วัดเนินหยก) ในฮานอย
อยู่ริมทะเลสาบบนเกาะหยก ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ สามารถข้ามจากฝั่งไปยังวัด
โดยข้ามสะพานเทฮุก (The Huc) หรือสะพานแสงอาทิตย์ มีสีแดงสดใสถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงฮานอย
นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกกันเสอมเมื่อถึงวัดหว็อกเซิน
ด้านในมีบรรยากาศร่มรื่นและมีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน
วัดเนินหยกนี้เล่าว่าสร้างโดยผู้กล้าท่านหนึ่งที่สามารถปลดแอกชาวเวียดนามจากมองโกล
ซึ่งในวัดก็มีรูปปั้นของท่านตั้งเป็นที่เคารพสักการะอยู่ และยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้ากวนอูอยู่ด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีเต่ายักษ์ตัวผู้ตัวหนึ่งที่ถูกสต๊าฟไว้ เต่าตัวนี้เล่ากันว่า ขึ้นมานอนอยู่ที่หอเต่ากลางทะเลสาบ
ชาวบ้านเห็นกลัวจะแห้งตาย จึงช่วยกันเอาลงน้ำ แต่เต่าดังกล่าวก็ยังขึ้นมาใหม่ถึง 5 ครั้ง 5 หน
และครั้งสุดท้ายก็มานอนตายอยู่ที่หอเต่านี้ ทางวัดจึงนำมาสต๊าฟไว้ให้คนได้ชม
ซึ่งบริเวณใกล้เต่าสต๊าฟยังมีรูปถ่ายเต่าตัวเมียอีกตัวหนึ่ง ที่มีคนเห็นโผล่มาในทะเลสาบเป็นครั้งคราว
และมีผู้ถ่ายรูปไว้ได้ ในบริเวณใกล้กับทะเลสาบคืนดาบ อันถือว่าเป็นเขตเมืองเก่า
ถนนการค้า 36 สาย ในกรุงฮานอย
มีสถานที่ที่นักช้อปทั้งหลายสนใจเป็นพิเศษ นั่นคือ ส่วนที่เรียกว่า ถนน 36 สาย
ที่เป็นซอยเล็กซอยน้อยอันเป็นที่ตั้งของร้านขายสินค้าที่มีอยู่มากมาย
แต่ละตรอกแต่ละซอยก็จะขายสินค้าแบบหนึ่งๆ เช่น ตรอกนี้ขายกระเป๋า
ซอยโน้นขายรองเท้า ถนนนั้นขายเครื่องไม้ เป็นต้น ซึ่งแต่เดิมเขาบอกว่าจะขายกันตามชื่อถนนจริงๆ
เช่น ถนนเครื่องเงินก็จะขายแต่เครื่องเงิน
แต่ปัจจุบันพ่อค้ารุ่นใหม่มักจะเน้นขายสินค้าฝีมือเฉพาะทาง แต่ตัวสินค้าไม่จำเป็นต้องเข้ากับชื่อถนนอีกต่อไป
การชมถนนการค้า 36 สาย อีกทางเลือกหนึ่ง ก็คือ การนั่งรถสามล้อถีบที่เรียกว่า “ไซโคล”
ชมถนน 36 สายที่ว่าก่อน เป็นการชิมลางดูว่ามีสินค้าอะไรขายบ้าง ก่อนที่จะไปลงเดินเลือกหาสินค้ากัน
การช้อปปิ้งบริเวณรอบๆ พอหอมปากหอมคอเป็นการซ้อมมือ
พูดถึงสามล้อถีบเวียดนามจะต่างกับบ้านเรา ในบ้านเราคนถีบจะอยู่ด้านหน้า คนนั่งอยู่หลัง
แต่ที่นี่จะกลับกัน คือ คนนั่งอยู่หน้า คนถีบอยู่หลัง
เคยคิดเล่นๆ ว่า ที่เป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะหากเกิดอะไรขึ้น คนนั่งจะได้รับไปเต็มๆ ก่อน
แต่โดยความจริงแล้ว ไกด์บอกว่า สมัยก่อนสามล้อถีบเขาก็เป็นแบบบ้านเราแหละ
แต่พอฝรั่งเศสมายึดครอง ก็เปลี่ยนใหม่ ให้เป็นอย่างที่เห็น
เพราะพวกฝรั่งคงจะมิได้นั่งสามล้อเพียงเพื่อเป็นพาหนะอย่างเดียว แต่คงต้องการนั่งกินลมชมวิวไปด้วย
ดังนั้น คนนั่งหากอยู่หลัง ก็ได้แต่เห็นก้นคนถีบ จะมองทัศนียภาพข้างทางก็คงไม่ถนัด
ก็เลยบังคับให้ที่นั่งคนถีบไปอยู่ข้างหลังแบบที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
หาใช่เป็นเจตนาร้ายของคนถีบอย่างเราเคยเข้าใจไม่
หุ่นกระบอกน้ำ (water puppet) ในฮานอย
ที่คนเวียดนามภูมิใจ นำเสนอต่อทุกชาติที่มาเยือนเวียดนาม ไม่ควรพลาดชมเด็ดขาด
โรงละครหุ่นน้ำ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทะเลสาบคืนดาบ โรงละครแห่งนี้ ก็คล้ายๆ กับโรงหนังบ้านเรา
เพียงแต่แทนที่ด้านหน้าจะเป็นจอหนัง ก็กลายเป็นสระน้ำ
ประมาณว่า น้ำสูงประมาณครึ่งตัวของผู้ที่ชักหุ่นอยู่หลังฉาก
โดยมีนักดนตรีเล่นดนตรี และผู้พากย์สดอยู่บนเวทียกพื้นด้านข้างๆ
การแสดงจะเป็นเรื่องวิถีชีวิตชาวเวียดนาม เช่น การทำเกษตรกรรม การจับปลา ตำนานเรื่องทะเลสาบคืนดาบ เป็นต้น
ความน่าดูของหุ่นน้ำ คือ ความแปลกของการชักหุ่น ที่ว่า แทนที่จะชักหรือเชิดหุ่นบนบกหลังฉาก ผู้ชักกลับอยู่ในน้ำ
ซึ่งหากเราฟังเพลงหรือเสียงพากย์ออก ก็คงจะออกอรรถรสยิ่งกว่านี้
การแสดงของเขาจะใช้เวลาประมาณ ๑ ชม. ก่อนเข้าชมเขาจะมีแผ่นพับ และพัดกระดาษวางแจกไว้หน้าโรง
ที่ตลกคือ ไกด์เวียดนามของเราบอกว่า แผ่นพับหยิบได้ตามใจชอบ เท่าไรก็ได้
เพราะเขาอยากโฆษณาอยู่แล้ว แต่พวกเราส่วนใหญ่ ได้ยินว่าให้หยิบพัดไปเท่าไรก็ได้
ดังนั้น พอเห็นพัดที่วางอยู่ แม้เขาจะเขียนภาษาอังกฤษว่าให้หยิบคนละเล่ม
แต่พวกเราก็หยิบกันมาคนละหลายเล่ม เพื่อมาแจกเพื่อนเป็นของที่ระลึก
กว่าจะรู้ว่าน่าจะฟังผิด ก็หยิบกันมาไม่น้อยกว่าคนละ 3-5 เล่มกระมัง
สถานที่ท่องเที่ยวส่วนขยายที่ออกนอกเมืองฮานอย มีอะไรบ้าง
เวียดนาม ยังมีอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ฮาลองเบย์
ฮาลองเบย์ ไม่ห่างจากฮานอยมากนัก
ห่างจากกรุงฮานอยมาทางทิศเหนือระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
อ่าวฮาลองตั้งอยู่ในจังหวัดกว่างนิงห์ (Quang Ninh) ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงฮานอย
เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน
มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร
ยังเป็นที่ตั้งของมรดกโลกทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกอย่างอ่าวฮาลอง
ทะเลสาบที่มีเนื้อที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตร มีเกาะหินปูนน้อยใหญ่ที่ถูกกัดเซาะจากคลื่นลมในท้องทะเลเป็นเวลากว่าพันปี
จนเกิดหินปูนรูปทรงสวยงาม วางเรียงรายอยู่บนผืนน้ำมากกว่า 1,000 เกาะ บรรยากาศเหมือนอ่าวพังงาในประเทศไทย
อ่าวฮาลอง หรือที่นิยมเรียกตามชื่อในภาษาอังกฤษว่า ฮาลองเบย์ (อังกฤษ: Halong Bay)
เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม
ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร
และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออก 170 กิโลเมตร
ชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามเขียนได้ว่า " Vinh Ha Long " หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง"
ในอ่าวหะล็องมีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล
บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น
หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าวคือ ถ้ำเสาไม้ (Hang Dau )
หรือชื่อเดิมว่า "กร็อตเดแมร์แวย์" (Grotte des Merveilles)
ซึ่งตั้งชื่อโดยนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่มาเยี่ยมชมอ่าวเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19
ภายในถ้ำประกอบไปด้วยโพรงกว้าง 3 โพรง มีหินงอกและหินย้อยขนาดใหญ่อยู่จำนวนมาก
เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือ เกาะกั๊ตบ่าและเกาะต่วนเจิว
ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมาก
คอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่น ๆ
บางเกาะก็มีชายหาดที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชม บางเกาะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง
และบางเกาะยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์หลายชนิด เช่น ไก่ป่า ละมั่ง ลิง และกิ้งก่าหลายชนิด
เกาะเหล่านี้มักจะได้รับการตั้งชื่อจากรูปร่างลักษณะที่แปลกตา
เช่น เกาะช้าง (Voi Islet) เกาะไก่ชน (Ga Choi Islet) เกาะหลังคา (Mai Nha Islet) เป็นต้น
ฮาลองเบย์ : มหัศจรรย์แห่งอ่าวมังกรตกน้ำ (มรดกโลกทางธรรมชาติเวียดนาม)
ตามตำนานพื้นบ้านได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตนานมาแล้ว ระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน
เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม
มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวหะล็องในปัจจุบัน
ทำให้มีอัญญะมณีและหยกพุ่งกระเด็นออก อัญญะมณีเหล่านี้กลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วอ่าว
เป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินของพวกเขาได้สำเร็จ
และก่อตั้งประเทศซึ่งต่อมาก็คือเวียดนามในปัจจุบัน
บางตำนานสมัยใหม่ก็กล่าวไว้ว่า ปัจจุบันยังมีสัตว์ในตำนานที่ชื่อว่า Tarasque อาศัยอยู่ที่ก้นอ่าว
จากความสวยงามและสมบูรณ์ของอ่าวฮาลอง
ทำให้ที่นี่ประกาศได้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์กรยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2537
ซึ่งเป็นเสมือนประกาศนียบัตรที่ใครเห็นต่างเชื่อถือ จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศเวียดนาม
ต้องล่องเรือมาชมอ่าวฮาลองเพื่อสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
การล่องอ่าวฮาลองเบย์นี้ จะพาไปยังเกาะนางฟ้า จะมีถ้ำใหญ่ให้ชม 2 ถ้ำ
ถ้ำแรกคนเวียดนามเรียกว่า “ถ้ำเทียนกุง” เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่มาก บรรยากาศเย็นสบายเหมือนติดแอร์ยังไงยังงั้นเลย
ถ้ำประดับแสงไฟตัดกับหินงอกและหินย้อยสวยงามมาก
ส่วนถ้ำที่สอง เรียกว่า เยาโกว เป็นถ้ำที่สวนต่างจากถ้ำนางฟ้า ไปอีกแบบเลยครับ
ว่าแต่ว่าจะเดินดูไหวไหมเท่านั้นเอง 5555 ส่วนใหญ่จบแค่ถ้ำนางฟ้า ก็ขึ้นเรือ กลับเข้าฝั่งครับ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องออกนอกเมืองฮานอย มีอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ วัดทองแดง
วัดทองแดง (เอียนตื๋อ ) ที่เวียดนามเหนือ
วัดทองแดง - เอียนตื๋อ ห่างจากฮานอย 135 กิโลเมตร
ทางเดียวกันกับทางไปฮาลองเป็นเขตโบราณสถานแห่งประวัติศาสตร์เวียดนาม
และทัศนียภาพภูเอียนตื๋ออยู่ในตัวเมือง อวงบี๊ จังหวัด กว๋างนิงห์ รวมพื้นที่กว่า 20 ตารางกิโลเมตร
ที่นี่มีวัดวาอารามและสถูปเจดีย์ที่มีอายุหลายร้อยปีมากมายหลายแห่ง
ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเขตป่าเขาเอียนตื๋อกว่า 2,700 เฮกต้า
โดยภูเอียนตื๋อนั้นยังมีชื่อเรียกว่า Bach Van Son หรือ Phu Van Son
ซึ่งหมายความว่าภูเขาแห่งสายหมอกที่มีความสูงกว่า1,068 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ซึ่งภูเอียนตื๋อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของนักบวชที่มีชื่อเสียงหลายรูปโดยเฉพาะกษัตริย์ Tran NhanTong
ที่ทรงสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสเพื่อเสด็จบรรพชาที่ภูเขาแห่งนี้และทรงก่อตั้งพุทธศาสนานิกาย Truc lam
ซึ่งทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
หมายเหตุ ไม่รับจัดทัวร์เวียดนามไปวัดแห่งนี้ หลังเทศกาลตรุษจีน 1 เดือน
เพราะคนเวียดนามมาเป็นแสนทุกวัน
รถส่งถึงภัตตาคาร ทานข้าวเที่ยง จากภัตตาคารเดิน 10 นาทีถึงจุด 1 ขึ้นกระเช้าไปจุด 2
จากจุด 2 เดิน 10 นาที ถึงวัดฮวาเฮียน
จากวัดฮวาเฮียนเดิน 20 นาที ถึงจุด 3 ต่อกระเช้าไปจุด 4
จากจุด 4 เดิน 40 นาที ถึงวัดทองแดง - เอียนตื๋อ
สรุปถ้าไปวัดฮวาเฮียน ( วัดกลาง ) ใช้เวลาไปและกลับ 1 ชั่วโมง
ถ้าไปวัดทองแดงไปกลับอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
สำหรับคณะทัวร์เวียดนามที่จะควรไปแค่ วัดกลางดีที่สุด ไม่เหนื่อยเกินไป
ทัวร์ฮานอย ที่ออกนอกเมือง มีอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ ฮาลองบก
“ฮาลองบก” ไม่ไกลจากฮานอย เช่นกัน
เปิดหัวใจแห่ง “เวียดนาม” สวรรค์ก็แค่ง่ายๆ ถ้าเราเปิดใจรับกับมันอย่างเต็มใจ…
คำพูดของใครบางคน ในครั้งที่เราได้ไปเยือน “ เวียดนาม” ย้อนกลับมาแจ่มชัด ในความทรงจำของเราอีกครั้ง
ใช่! สวรรค์ก็แค่ง่ายๆ แต่น้อยครั้ง ที่เราจะเปิดใจรับมันเข้าอย่างเต็มใจ
ด้วยการออกจากสิ่งที่เคยทำประจำวัน ออกไปหาความสุข
และสิ่งแปลกใหม่ที่ต่างจากชีวิตปะจำวันที่เราเคยพบเห็น
การที่ได้มาเที่ยวฮาลองบก ที่นิงบิงห์ของเวียดนามตอนเหนือนี้
ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง อากาศที่แสนจะบริสุทธ์ ท่ามกลางหุบเขา
และทุ่งนาที่คนเวียดนามพากันปลูกเอาไว้มากมาย ด้วยการขุดลอกคลองเอามาไว้ริมฝั่ง
กั้นไม่ให้ดินที่นำมาถมริมฝั่งล้มกลับไปที่ลำธาร ด้วยการปักเสาต้นไม้ เป็นระยะ ๆ
พร้อมกางถุงพลาสติค ไปกับแนวไม้ที่นำมาเสียบทำเป็นแนวกำแพงดิน กันดินล่มลงไปในน้ำอีกครั้ง
ดินที่นำมาถมบนริมลำธาร คนเวียดนามเอามาปลูกข้าว เต็มไปหมด
โปสเตอรในฮานอย เชิญชวนให้ไปเที่ยว “ฮาลองบก” หรือ “Tam Coc” อยู่ที่เมือง “นิงห์บิงห์” (Ninh Binh)
“ฮาลองบก” เป็นเมืองท่องเที่ยวทางตอนใต้ของ “ฮานอย”
ใต้พื้นน้ำที่ล่องเรือกันนั้น ในช่วงหน้าแล้ง ก็คือ “นาข้าว” ที่นี่มีสโลแกนเก๋ๆ ว่า “พายเรือบนนาข้าว”
เราตัดสินใจ ไป “ฮาลองบก” หรือ Tam Coc การเดินทางจาก “ฮานอย” ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ระหว่างทางจะมีจุดแวะพัก เข้าห้องน้ำ ซื้อของฝากประมาณ 30 นาที
จุดหมายแรกของเราในวันนี้คือเมือง “ฮวาลือ” (Hoa Lu)
ซึ่งเป็น “เมืองหลวงเก่า” ก่อนที่เมืองหลวง จะย้ายไป “ฮานอย” ในปี 1010
ที่นี่ ทัวร์พาเราแวะชมวัดเก่า 2 วัด คือ “วัดดิงห์เตียนฮว่าง” (Dinh Dynastic Temple)
ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นให้กษัตริย์ และ “วัดเลฮวาน” (Le Dynastic Temple) ที่สร้างขึ้นให้กับมเหสี
เราใช้เวลาเดินเท้าไม่นานนัก ก็ไปได้ทั่วอาณาบริเวณของวัดแห่งแรก
จากนั้นก็เดินเท้ากันไปต่อ ที่วัดแห่งที่สอง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
เราใช้เวลาที่วัดเก่าทั้ง 2 แห่ง ประมาณ 45 นาที
แล้วก็ได้เวลานั่งรถไปยัง “ฮาลองบก” หรือ “Tam Coc” ที่เป็นจุดหมายหลักในวันนี้
ก่อนลงเรือ เราแวะทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารใกล้ๆ จุดลงเรือ ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์จนอิ่มท้อง
และเมื่อทุกคนพร้อม ก็ได้เวลาล่องเรือ โดยนักท่องเที่ยวเดินแถวเข้าคิว พร้อมๆ กับเรือแจว
ไม่นานนักเราก็ลงไปนั่งในเรือ โดยเรือลำที่นั่งไปนั้น เรามารู้ภายหลังว่า แม่กับลูกสาว เป็นคนพายและคนถ่อ
ระหว่างล่องเรือ เรานึกถึงคำบอกเล่าของไกด์บนรถ ที่เล่าให้เราฟังว่า “Tam Coc” มีความหมายว่า “ถ้ำสามแห่ง”
และเราจะได้นั่งเรือลอดผ่านถ้ำทุกแห่งที่ว่านี้ โดยใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมง
บรรยากาศแปลกๆ ระหว่างการล่องเรือ ยังอยู่ในความทรงจำ พร้อมกับความงามที่เราได้สัมผัส
รอยยิ้มและคำทักทายง่ายๆ ในภาษาเวียดนาม ช่วยให้การสื่อสารระหว่างเรากับคนพายเรือ เริ่มคุ้นเคยและสนิทสนมกัน
ทิวทัศน์สองข้างทางช่างงดงามนัก แม้จะดูคล้ายเหมือนถูกปรุงแต่ง ให้มีหน้าตาอย่างที่เห็น
กระนั้น ทุกอย่างก็กลับดูลงตัวอย่างประหลาด เรา “พายเรือบนนาข้าว”
ตลอดลำน้ำทอดยาว ระหว่าง “ทุ่งข้าว” ที่ผ่านการเก็บเกี่ยวแล้ว
สองข้างทางขนาบข้างด้วยทิวทัศน์ ของ “เทือกเขาหินปูน”
ที่สูงเด่นตระหง่านอยู่รายรอบ เรือล่องไปเรื่อยๆ ลอดผ่านถ้ำ 3 แห่ง
ต้องยอมรับว่า เป็นความสวยงามที่แปลกตาไปอีกแบบ
ระหว่างทางเราทักทาย และโบกมือให้คนแปลกหน้า ที่สวนทางกัน เหมือนอย่างคุ้นเคย
เราอดนึกขำไม่ได้ ที่คนแปลกหน้าซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
กลับคล้ายเหมือนคนคุ้นเคยระหว่างกัน ในดินแดนต่างถิ่น
กระทั่งถึงจุดสิ้นสุด ที่เรือไม่สามารถไปต่อได้ เหมือนว่า ลำน้ำมาสิ้นสุด ณ ที่แห่งนี้
สวรรค์ดูเรียบง่าย แต่ก็จบลงแบบห้วนๆ จนความประทับใจที่เริ่มมาแต่แรก คล้ายกับสะดุดหยุดลงชั่วคราว
โดยเฉพาะเมื่อต้องพบกับไฟต์บังคับของกิจกรรมหารายได้จากนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวต้องซื้อของอย่างน้อยสักชิ้น เพื่อไม่ให้ดูว่าไม่ได้แล้งน้ำใจ
อาการสะดุดยังคงมีต่อเนื่อง เพราะระหว่างทางที่ย้อนกลับทางเดิม ขณะที่ลูกสาวเป็นคนพาย
คุณแม่ก็เริ่มทำธุรกิจ เปิดกล่องใหญ่ที่บรรจุเสื้อผ้าสำหรับขายนักท่องเที่ยว พร้อมกับนำเสนอให้เราเลือกซื้อกัน
ครั้นจะไม่ซื้อก็น่าเกลียด เราจึงช่วยอุดหนุนเสื้อคนละตัว ทั้งที่รู้ว่าราคาแพงกว่าที่ฮานอย
กลับมาถึงฝั่ง เราทิปให้คนพายเรือตามมารยาท แต่ดูเหมือนเขาจะเห็นว่าน้อยไป
จึงขอทิปเพิ่ม แต่เราตัดใจไม่ให้ พร้อมกับเดินมาที่จุดนัดพบ เพื่อขึ้นรถกลับฮานอย
“ฮาลองบก” ในตอนจบ อาจสะดุดความรู้สึกอยู่บ้าง
แต่ภาพความงามของฮาลองบกที่เราผ่านมาก็คงชดเชยกันไดบ้าง
ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ เติมเต็มความประทับใจ และประทับแน่นในความทรงจำอีกครั้ง
สวรรค์ก็แค่ง่ายๆ เมื่อเราเปิดใจรับอย่างเต็มใจ อย่าให้สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาทำให้เศร้าหมองเลย
เรามาเที่ยว.....หาความสุขนี่นา
ขอบคุณ “ฮาลองบก” มหัศจรรย์ใจที่มาเยือนเวียดนามในครั้งนี้
ทัวร์ฮานอย ที่ออกนอกเมือง มีอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ
ทัวร์เวียดนาม ทัวร์วัดเจดีย์หอม หรือ Perfume Pagoda
รายการท่องเที่ยวเวียดนามนี้จะดูคล้าย ๆ ไปฮาลองบก แต่จะมีการนั่งกระเช้าขึ้นไปเพิ่มขึ้นมา
ทำให้รายการนี้ได้ชื่อว่า ขึ้นรถลงเรือต่อกระเช้า
วัดเจดีย์หอม เป็นการท่องเที่ยวส่วนต่อเสริมจากฮานอย ฮาลอง
หากมีเวลาเพิ่มอีก 1 วัน นักท่องเที่ยวอาจจะเลือก ระหว่างฮาลองบกกับวัดเจดีย์หอม อย่างใดก็อย่าวงหนึ่ง
ซึ่งการท่องเที่ยววัดเจดีย์หอม จะเป็นการล่องเรือชมถ้ำของวัดเจดีย์หอมอีกแห่งหนึ่งโดยจะใช้เวลาการเดินทาง 1 วัน
ระยะทางห่างจากฮานอยพอๆกับไปฮาลองบก ซึ่งช่วงระหว่างทางจะแยกไปคนละทางในทิศตรงกันข้าม
เส้นทางไปวัดเจดีย์หอมจะเข้าผ่านถนนในชนบทมากกว่า
และการจัดระบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงเรือนั้นค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร
รายละเอียดการเดินทาง..เริ่มตอนเช้าหลังอาหารจะเดินทางออกจากกรุงฮานอย
ระหว่างกึ่งกลางทางจะหยุดพักผ่อนทำธุระที่ศูนย์คนพิการ
ก่อนจะเดินทางทางต่อยังท่าเรือที่จะลงเรือพายขนาดนั่ง 6 - 8 คน
เป็นลักษณะเรือเหล็กท้องแบนจากท่าเรือจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงท่าที่จะขึ้นฝั่ง
เพื่อเข้าชมวัดเจดีย์หอมในส่วนชั้นล่าง ซึ่งสวยงาม หลังชมวัดเจดีย์หอมเสร็จ ก็จะได้เวลาทานอาหารกลางวันที่นี่
อาหารจะอร่อยกว่าฮาลองบกเรียกว่าทำกันเดี๋ยวนั้นแบบอาหารตามสั่งเลยทีเดียว อร่อยครับ
ทานอาหารเสร็จเดินทางขึ้นเนินเขาเพื่อไปขึ้นกระเช้าสู่ถ้ำเจดีย์หอม พอลงจากกระเช้าจะต้องเดินไปอีกระยะหนึ่ง
จะเห็นทางลงสู่ถ้ำเจดีย์หอม ตอนลงสู่ถ้ำ ไม่เท่าไหร่ครับ
แต่ตอนเดินกลับนี่สิ ต้องเดินขึ้นอย่างเดียว เลยครับ เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆกัน
ภายในถ้ำหอมนี้ จะมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธ์มากมาย ที่คนเวียดนามให้ความเคารพเป็นอย่างสูง
หากตรงกับช่วงเทศกาลของที่นี่ บอกได้เลยว่าทัวร์ที่ไหนก็ไม่กล้าจัดมาหรอกครับ
คนเวียดนามทั่วทั้งประเทศเวียดนาม จะพากันหลั่งไหลเข้ามาวันละ มากกว่า 1 แสนคนในแต่ละวัน
รถติดยาวเหยียด เรือพายแทบจะไม่พอให้บริการ อีกทั้งกระเช้ารอคิวยาวเหยียด
บ้างรอไม่ไหว ก็จะเดินขึ้นไปเพื่อแสดงถึงศรัทธาที่มีต่อสถานที่ๆแห่งนี้
หลังจากเดินขึ้นมาจากถ้ำเจดีย์หอม ตลอดทางทางเดินที่จะไปลงกระเช้า จะมีร้านค้าของฝากที่ระลึกมากมาย
คอยเรียกร้องให้เงินในกระเป๋าของเราพากันวิ่งออกมาให้กับแม่ค้า ที่ร้องเรียกหาตลอดทาง
สมควรแก่เวลาเดินทางกลับเส้นทางเดิม การนั่งเรือกลับ
หากต้องการความเร็วต้องเหมาเรือยนต์ แต่ส่วนใหญ่นั่งเรือพายกลับซึ่งจะต้องใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงเช่นกัน
พิเศษ จากเรา
- ราคาที่นำเสนอพิเศษสุดกว่าที่อื่น แต่มากด้วยคุณภาพกว่ามากมาย
- มีการชี้แนะสินค้าที่ควรซื้อให้ในราคาถูก ๆ ไม่มีจุดประสงค์ในการพาไปเชือดเหมือนทัวร์ทั่วไป
- เราแจกหมวก ให้คนละ 1 ใบ
- แจกกระเป๋าใส่ดินสอ ปากกาให้ 1 ใบ
- แจก ยาหม่องน้ำ ให้ 1 ขวด
- แจก พัดมือถือ คนละ 1 อัน 555
สนใจในการจอง
โอนเงินมัดจำ ในการจอง ทัวร์ คนละ 10,000 บาท
ชำระส่วนที่เหลือให้หมดก่อน 15 วัน ของวันเดินทาง
โอนมาที่ ธนาคารใด ธนาคารหนึ่ง ในนาม สมปอง เจนชัยจิตรวนิช
ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา สาขา สี่แยกวังหิน บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 2140013280
ธนาคาร กสิกรไทย สาขา รัชดา-ห้วยขวาง ในบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 089-1069251
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย เซ็นทรัลปิ่นเกล้า บัญชี ออมทรัพย์ เลขที่ 183-2 10718-9
ธนาคาร กรุงเทพ สาขาย่อย เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 095-0-20209-3
หลังการโอนเงิน
กรุณา ส่งหลักฐานต่างๆ ที่แจ้งไว้ด้านล่างนี้ มาที่............
- Fax 02-9481866, 02-9482065 รอสัญญาณ แฟกต์
- หรือ สแกนหลักฐาน ส่งมาที่ อีเมล์ jenchai624@hotmail.com
- สำเนาการโอนเงิน
- เบอร์โทรติดต่อกลับ ของ ผู้จอง และเพื่อนร่วมทาง
- กำหนดวันเดินทาง / ทริปที่ไป / วันเดินทาง
- หากไปต่างประเทศ ขอสำเนาพาสปอต
- สำเนาบัตรประชาชน กรณี ยังไม่มีพาสปอตในขณะนั้น ( ใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน )
สมปอง ทัวร์ /
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว เลขที่ 11 / 05588
Website : www.programtour.com
Email : jenchai624@hotmail.com
Chat : msn : jenchai624@hotmail.com
Chat : Skype : jenchai624
Office 1 : : ตลิ่งชัน 02-8867018-9
Office 2 : รามอินทรา : 02-9481866, 02-9482065
Mobile : ไทย : 089-9246304, 087-5149753,
Mobile : เวียดนาม : 091-6003612
กรุณาอ่านหมายเหตุให้ละเอียดทั้ง 5 ข้อ
หมายเหตุ
1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย ไม่ว่ากรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง
ของไทยไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง
2. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทาง
บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล, การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน
3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
5. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทาง
โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อนการเดินทาง
*** ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ***
โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะอากาศ
และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์และ
ความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ
อัตรานี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นนักท่องเที่ยว ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความ
ประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด)
- ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
- ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
- ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
- ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
- ค่ายกกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ (น้ำหนัก 20 กิโลกรัม) / (โรงแรมที่พักบางแห่งอาจไม่มีคนขนกระเป๋า)
- ค่าประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง(วงเงินประกันอุบัติเหตุสูงสุด ท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาทและ วงเงินประกันสุขภาพสูงสุด ท่านละไม่เกิน 1,500,000)
- ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง
อัตรานี้ไม่รวม
- ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ , ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง,
- ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 20 ก.ก.และมากกว่า 1 ชิ้น,
- ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
- ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถตลอดรายการเดินทาง
เงื่อนไขการจอง
วางเงินมัดจำท่านละ 10,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
หมายเหตุ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า 14 วัน ในกรณีที่ไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 15 ท่าน
ในกรณีนี้บริษัทฯ ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมด หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ถ้าต้องการ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์
และอุบัติเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน, ภัยธรรมชาติ, การจลาจลต่างๆ เป็นต้น
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง
- กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง และกรุณาเตรียมเงินมัดจำ 10,000 บาท
พร้อมกับเตรียมเอกสารส่งให้เรียบร้อย ภายใน 2-3 วัน หลังจากทำการจองแล้ว
- การชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทางบริษัทฯ จะเรียกเก็บก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วัน ท่านควรจัดเตรียมค่าทัวร์ให้เรียบร้อยก่อนกำหนด
เนื่องจากทางบริษัทต้องสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าที่พักและตั๋วเครื่องบิน มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
กรณียกเลิกการเดินทาง
- ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันขึ้นไป คืนเงินทั้งหมด
- ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15 วันขึ้นไป เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 10,000 บาท
- ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10 วัน เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100% ของราคาทัวร์
- ยกเว้นกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดหรือเทศกาลที่ต้องการันตีมัดจำกับสายการบินหรือค่ามัดจำที่พักโดยตรงหรโดยการผ่านตัวแทนในประเทศ
หรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้ รวมถึงเที่ยวบินพิเศษเช่น Extra Flight และ Charter Flight จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ
หรือค่าทัวร์ทั้งหมดเนื่องจากค่าตั๋วเป็นการเหมาจ่ายในเที่ยวบินนั้นๆ
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯกำหนดไว้ (15ท่านขึ้นไป)
เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกัน บริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน
- กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯ จะทำการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป
แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได
- กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตาม
ทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบิน
- ในการเดินทางเป็นหมู่คณะ ผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับพร้อมกัน หากต้องการเคลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบิน และบริษัททัวร์เรียกเก็บและการจัดที่นั่งของกรุ๊ป เป็นไปโดยสายการบินเป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณียกเลิกการเดินทาง และได้ดำเนินการ ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว (กรณีตั๋ว REFUNDได้) ผู้เดินทางต้องรอ REFUND ตามระบบของสายการบินเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
++ เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) และห้องคู่ (Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ห้องพักอาจจะไม่ติดกัน
++ กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็ม บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
++ โรงแรมในสิงคโปร์ที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกันด้วย
การเดินทางเป็นครอบครัว
หากท่านเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ หรือเดินทางพร้อมสมาชิกในครอบครัวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ (Wheelchair), เด็ก, และผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว ไม่สะดวกในการเดินท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกันท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
ข้อความซึ่งถือเป็นสาระสำหรับท่านผู้มีเกียรติซึ่งร่วมเดินทาง
ทางบริษัทฯ เป็นตัวแทนในการจัดนำสัมมนา และการเดินทางที่มีความชำนาญ โดยจัดหาโรงแรมที่พัก อาหาร ยานพาหนะ และสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมทั้งการสัมมนา ดูงาน เพื่อความสะดวกสบาย และเกิดประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดจากโรงแรมที่พัก ยานพาหนะ, อันเนื่องจากอุบัติเหตุรวมถึงภัยธรรมชาติ, โจรกรรม, วินาศกรรม, อัคคีภัย, การผละงาน, การจลาจล, สงครามการเมือง, การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ, การนัดหยุดงาน, ความล่าช้าของเที่ยวบิน, สายการเดินเรือ, รถไฟ, พาหนะท้องถิ่น, ตลอดจนการถูกปฏิเสธออกวีซ่าจากกงสุล และ / หรือ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงผู้มีอำนาจทำการแทนประจำประเทศไทย (โดยไม่จำต้องแสดงเหตุผล เนื่องจากเป็นสิทธิพิเศษทางการทูต) ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ หมายรวมถึงในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทั้งใน หรือ ต่างประเทศ แต่ทางบริษัทฯ มีความคุ้มครอง และประกันอุบัติเหตุ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ ที่รับประกันในกรณีที่ผู้ร่วมเดินทางถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย และ/หรือ ต่างประเทศ มิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศ เนื่องมาจากความประพฤติ พฤติกรรมของผู้เดินทาง ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการความคุมโรคติดต่อเฉพาะพื้นที่มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อการเดินทาง รวมถึงมีสิ่งผิดกฎหมาย บริษัทฯ จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใดๆ รายละเอียดด้านการเดินทาง อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น หรือเพื่อความเหมาะสมทั้งปวง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ทั้งนี้การขอสงวนสิทธิดังกล่าว บริษัท จะยึดถือและคำนึงถึงผลประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยของท่านผู้มีเกียรติ ซึ่งร่วมเดินทางเป็นสำคัญ
พิเศษ จากเรา
- ราคาที่นำเสนอพิเศษสุดกว่าที่อื่น แต่มากด้วยคุณภาพกว่ามากมาย
- มีการชี้แนะสินค้าที่ควรซื้อให้ในราคาถูก ๆ ไม่มีจุดประสงค์ในการพาไปเชือดเหมือนทัวร์ทั่วไป
- เราแจกหมวก ให้คนละ 1 ใบ
- แจกกระเป๋าสะพายให้ 1 ใบ
- แจก ยาหม่องน้ำ ให้ 1 ขวด
- แจก พัดมือถือ คนละ 1 อัน 555
สนใจในการจอง
โอนเงินมัดจำ ในการจอง ทัวร์ คนละ 10,000 บาท
ชำระส่วนที่เหลือให้หมดก่อน 15 วัน ของวันเดินทาง
โอนมาที่ ธนาคารใด ธนาคารหนึ่ง ในนาม สมปอง เจนชัยจิตรวนิช
ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา สาขา สี่แยกวังหิน บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 2140013280
ธนาคาร กสิกรไทย สาขา รัชดา-ห้วยขวาง ในบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 089-1069251
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย เซ็นทรัลปิ่นเกล้า บัญชี ออมทรัพย์ เลขที่ 183-2 10718-9
ธนาคาร กรุงเทพ สาขาย่อย เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 095-0-20209-3
หลังการโอนเงิน
กรุณา ส่งหลักฐานต่างๆ ที่แจ้งไว้ด้านล่างนี้ มาที่............
- Fax 02-9481866, 02-9482065 รอสัญญาณ แฟกต์
- หรือ สแกนหลักฐาน ส่งมาที่ อีเมล์ jenchai624@hotmail.com
- สำเนาการโอนเงิน
- เบอร์โทรติดต่อกลับ ของ ผู้จอง และเพื่อนร่วมทาง
- กำหนดวันเดินทาง / ทริปที่ไป / วันเดินทาง
- หากไปต่างประเทศ ขอสำเนาพาสปอต
- สำเนาบัตรประชาชน กรณี ยังไม่มีพาสปอตในขณะนั้น ( ใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน )
สมปอง ทัวร์ /
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว เลขที่ 11 / 05588
Website : www.programtour.com
Email : jenchai624@hotmail.com
Chat : msn : jenchai624@hotmail.com
Chat : Skype : jenchai624
Office 1 : : ตลิ่งชัน 02-8867018-9
Office 2 : รามอินทรา : 02-9481866, 02-9482065
Mobile : ไทย : 089-9246304, 087-5149753,
Mobile : เวียดนาม : 091-6003612 |